วิถีเต๋า วิถีบัฟเฟตต์

สั่งซื้อหนังสือ “วิถีเต๋า วิถีบัฟเฟตต์” ได้ที่นี่ : คลิ๊ก

วิถีเต๋า วิถีบัฟเฟตต์

The TAO of Warren Buffett

ผู้เขียน Mary Buffett and David Clark

ผู้แปล เอกสิทธิ์ หัสสรังสี

เกริ่นนำ

เป็นหนังสือที่เขียนโดย แมรี่ บัฟเฟตต์ ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ของวอร์เรนบัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับโลก

ส่วนเดวิด คลาร์ก เป็นหนึ่งในสาวกของบัฟเฟตต์ ซึ่งเป็นนักศึกษา ที่ศึกษาด้านการลงทุน ของวอร์เรนบัฟเฟตต์ และเขาจะคอยพกสมุดโน๊ตเล่มเล็กๆ ที่เต็มไปด้วย คติพจน์ของ วอร์เรน ที่เต็มไปด้วย ความรู้ในเรื่องของการลงทุน การบริหารธุรกิจ การเลือกอาชีพและการทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ซึ่งคล้ายคลึงกับคำสอนของลัทธิเต๋า จึงทำให้เราได้เผยแพร่ลงในหนังสือแล่มนี้

การสร้างและใช้ชีวิตอยู่กับความร่ำรวย

กฎข้อที่ 1 อย่าขาดทุน

กฎข้อที่ 2 อย่าลืมกฎข้อที่ 1

การให้เงินสร้างผลตอบแทนทบต้น ยิ่งคุณเริ่มต้นด้วยเงินมากเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น เช่น เงินต้น 100,000 เหรียญ ผลตอบแทนทบต้น 15% ในเวลา 20 ปี จะเท่ากับ 1,636,653 เหรียญ แต่ถ้าคุณขาดทุนไป 90,000 เหรียญ เหลือเงินลงทุนแค่ 10,000 เหรียญ ผลตอบแทนคุณจะโตเพียง 163,665 เหรียญ ซึ่งแตกต่างกันอย่างมาก ยิ่งคุณขาดทุนมากเท่าไหร่ ยิ่งมีผลกระทบต่อกำไรในอนาคตของคุณมากเท่านั้น

ผมลงทุนครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ

ชีวิตผมสูญเปล่าจนกระทั่งผมเริ่มลงทุน

วอเร็นซื้อหุ้นเมื่อตอนอายุ 11 ขวบ คือหุ้นน้ำมัน เขาซื้อที่ราคา 38 เหรียญ และมันก็ดิ่งลงไปที่ 27 เหรียญ เขานั่งเหงื่อตกอยู่พักใหญ่ แล้วพอราคากลับมาที่ 40 เหรียญ เขาก็ขายทิ้งทั้งหมด ไม่นานหุ้นก็พุ้งขึ้นไปที่ราคา 200 เหรียญ และเขาก็ได้รับบทเรียนแรกของการลงทุน นั่นคือคำว่า “อดทน”

อย่ากลัวที่จะเรียกราคาสูงๆเมื่อต้องการจะขาย

และอย่าอายที่จะเสนอราคาต่ำๆเมื่อต้องการจะซื้อ

วอเร็นเข้าใจว่าผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกไม่ดีถ้าจะเรียกราคาสูงๆ เมื่อต้องการจะขาย และเสนอราคาต่ำๆเมื่อต้องการจะซื้อ

หลายครั้งการเจรจาการซื้อขาย ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องของราคาได้ ตัวอย่างเช่นต้องการซื้อ หุ้นบริษัท ABC ในราคาที่ต่ำกว่า จาก Capital Cities และเมื่อตกลงกันไม่ได้ วอเร็นจึงเดินออกจากการเจรจา วันถัดมา Capital Cities ก็ตกลงยินยอมตามข้อเสนอของวอเร็น บางครั้งการที่คุณลองเสนอสิ่งที่คุณต้องการ บางทีคุณอาจจะได้มันมา แต่ถ้าคุณไม่เคยเสนอคุณก็ไม่มีวันได้รับการตอบสนองนั้น

คุณไม่มีวันที่จะได้ข้อตกลงดีๆ จากคนที่แย่ๆ

ถ้าคุณต้องถามตัวเองด้วยคำถามที่ว่า “เราสามารถไว้ใจคนๆ นี้ได้หรือ?” คุณก็ควรลุกหนีออกจากการเจรจาทันที แล้วเริ่มมองหาบริษัทที่น่าเชื่อถือมากกว่านี้ ถ้าคุณไม่สามารถเชื่อใจเขาได้ในวันนี้ คุณก็ไม่สามารถเชื่อใจเขาได้ตลอดไป ถ้าเช่นนั้นทำไมคุณจะต้องเชื่อใจตั้งแต่แรก

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศนี้ไม่ได้สร้างฐานะมาจาก portfolio ที่ประกอบด้วยบริษัท 50 บริษัท

แต่พวกเขาสร้างฐานะด้วยการเสาะหาธุรกิจที่แสนพิเศษเพียงธุรกิจเดียวเท่านั้น

ถ้าคุณได้สำรวจครอบครัวมหาเศรษฐี คุณจะพบว่าทรัพย์สินมหาศาลของเขาเกือบทั้งหมดถูกสร้างมาจากธุรกิจเพียงธุรกิจเดียวเท่านั้น เช่น ครอบครัวของ Gate ทำเงินจากธุรกิจซอฟแวร์ และตัวอย่างอื่นๆ อีกมาก และโดยไม่มีข้อยกเว้นที่พวกเขาหลงทาง ออกมาจากธุรกิจอันแสนวิเศษที่ทำเงินมหาศาลให้กับพวกเขา มักจะพบจุดจบด้วยการสูญเสียเสมอ เช่น เมื่อ Coca-Cola เข้าไปในธุรกิจภาพยนตร์

กุญแจสู่ความสำเร็จของวอเร็น คือเขาสามารถจำแนกได้ว่าอะไรคือธุรกิจที่แสนพิเศษ ธุรกิจที่สามารถแข่งขันอย่างยั่งยืน ที่เอา ชนะ ใจลูกค้าได้ วอเร็นได้เรียนรู้ว่า ธรรมชาติของตลาดหุ้น มักจะมองเพียงแค่ระยะสั้นๆ ซึ่งทำให้บริษัทพิเศษๆเหล่านี้ ถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริงอยู่บ่อยๆ บริษัทเหล่านั้นล้วนสร้างกำไรได้อย่างมหาศาล และถูกซื้อมาเมื่อวอลสตรีทไม่สนใจ

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะยกเลิกสัญญาที่เซ็นไปแล้ว

ดังนั้นคงให้รอบคอบก่อนที่จะเซ็นสัญญา

ทุกครั้งเมื่อคุณได้เซ็นสัญญา คุณต้องคิดให้รอบคอบก่อนที่จะเซ็นชื่อลงไป ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเซ็นสัญญา ต้องจินตนาการถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม เพราะถนนสู่ความสำเร็จนั้น จะต้องปูไปด้วยปัญหาที่ถูกมองเห็นแล้วล่วงหน้า คิดให้ไกลและคิดให้หนักก่อนที่จะจรดปากกา

การอยู่ให้ห่างจากปัญหานั้นง่ายกว่าการแก้ปัญหามาก

การอยู่ให้ห่างจากสิ่งยั่วใจให้ทำเงินแบบผิดกฎหมายนั้นง่ายกว่าการที่จะต้องมาแก้ปัญหาเมื่อถูกจับได้ การที่จะอยู่ให้ห่างจากปัญหานั้นง่ายมากแค่ทำสิ่งที่ถูกในเวลาที่ถูกแต่ในการแก้ปัญหานั้นคุณจะต้องใช้เงินจำนวนมากและทนายที่มีฝีมือ แม้กระนั้นคุณก็ยังจะต้องจบลงด้วยการถูกจองจำเป็นเวลานาน

บทเรียนสำคัญที่ทำให้วอเร็นเกือบต้องสูญเสียเงิน 700 บ้านเหรียญของเขาคือการลงทุนในบริษัท Solomon Brothers เนื่องจากมีการซื้อขายตราสารหนี้อย่างผิดกฎหมายโดยพนักงานที่หวังจะรวยทางลัด บริษัทจะต้องสูญเสียขนาดไหนถึงจะหลุดออกจากปัญหานี้ได้ ต้องสูญเสียพนักงานระดับหัวกะทิ เสียค่าทนายเป็นล้านๆ เหรียญ เสียค่าปรับเสียเวลาจากการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีและการสูญเสียคู่ค้าทางธุรกิจ มันจะง่ายกว่าและกำไรมากกว่านี้มากถ้าจะอยู่ให้ห่างจากปัญหาตั้งแต่แรก

คุณควรจะลงทุนให้เหมือนกับการแต่งงาน นั่นคือ ตลอดชีวิต

วอเร็นรู้ว่าถ้าคุณตัดสินใจลงทุนจากมุมมองว่าถ้าคุณลงทุนแล้วคุณจะไม่สามารถที่จะย้อนเวลาหรือยกเลิกการลงทุนของคุณได้ แน่นอนว่าคุณจะทำการบ้านอย่างดีก่อนที่คุณจะกระโดดเข้าไปลงทุน คุณจะไม่กระโดดเข้าสู่ชีวิตคู่โดยไม่ทำการวิจัยและปรึกษากับที่ปรึกษาของคุณ และคิดให้รอบคอบก่อนที่จะทำมันใช่ใหม หรือคุณจะกระโดดเข้าสู่วงการลงทุนโดยไม่พยายามที่จะเรียนรู้หรือเข้าใจอะไรเลยเกี่ยวกับการลงทุนการเป็นหุ้นส่วนตลอดชีวิตนั้นทำเงินได้จริงๆลองพิจารณาเรื่องต่อไปนี้ วอร์เรนลงทุน 11 ล้านเหรียญในบริษัท Washington Post เขายังคงแต่งงานกับการลงทุนครั้งนั้นจนถึงทุกวันนี้มากกว่า 30 ปีที่เค้าลงทุนเงินลงทุนของเค้าได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 พันล้านเหรียญ ถ้าคุณเลือกได้ถูกต้องและเชื่อมั่นอย่างหนักแน่นในการแต่งงานกับหุ้นในระยะยาวผลตอบแทนอันงดงามจะเป็นของคุณ

วอสตรีทเป็นที่ๆ เดียว ที่คนซึ่งมาด้วยรถ Rolls-Royce ฟังคำแนะนำของคนที่มาด้วยรถไฟใต้ดิน

วอเร็นคิดอยู่เสมอว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกมากที่บุคคลซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในหน้าที่การงานและนักธุรกิจที่สร้างเงินจำนวนมหาศาลจะมาขอคำแนะนำเรื่องหุ้นจากโบรกเกอร์ผู้ซึ่งไม่สามารถที่จะให้คำปรึกษาตัวเองด้วยซ้ำ และถ้าคำแนะนำของโบรกเกอร์นั้นดีมากๆ ทำไมโบรกเกอร์ถึงไม่รวย บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ได้รวยจากการให้คำแนะนำ แต่พวกเขาได้มาจากการคิดค่าในหน้าจากคุณต่างหาก คุณควรจะระวังบุคคลที่จะมาช่วยในการบริหารเงินของคุณเพื่อที่จะให้คุณรวยขึ้นโดยเฉพาะถ้าเค้าขายคำแนะนำให้คุณได้มากเท่าไหร่เค้ายิ่งทำเงินได้มากเท่านั้น

วอเร็นไม่เคยสนใจในการคาดการณ์ธุรกิจที่นักวิเคราะห์เป็นคนทำแม้แต่น้อย เพราะนักวิเคราะห์นั้นมักจะมองโลกในแงดีมากเกินไป

เงินของคุณไม่สามารถซื้อความสุขได้

วอเร็นไม่เคยสับสนระหว่างความร่ำรวยกับความสุข เงินไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเขาได้ เขายังใช้ชีวิตติดดินเหมือนเดิม คุณสามารถเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้ แต่ถ้าไม่มีความรักจากคนในครอบครัวและเพื่อนๆ คุณก็จะเป็นคนที่น่าสังเวชที่สุดเท่านั้น

ต้องใช้เวลาถึง 20 ปีในการสร้างชื่อเสียง

แต่ใช้เวลาเพียง 5 นาทีที่จะทำลายมัน

ถ้าคุณคิดได้แบบนี้การกระทำโง่ๆเพียงครั้งเดียวบวกกับสื่อเร็วๆจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่ จะไม่ ทำในสิ่งที่คุณรู้ว่าผิด เพราะว่าถ้าคุณถูกจับได้ คุณอาจไม่สามารถยอมรับมันได้

ตลาดหุ้นนั้นเหมือนกับพระเจ้าตรงที่จะช่วยเฉพาะคนที่รู้จักช่วยตัวเองก่อน แต่สิ่งที่ตลาดหุ้นไม่เหมือนกับพระเจ้าคือตลาดหุ้นจะไม่ให้อภัยกับคนที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่

ตลาดหุ้นมีอยู่เพื่อสร้างความมั่นคงและความร่ำรวยให้กับตัวคุณถ้าคุณรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ถ้าคุณไม่รู้ตัวมันจะไม่ลังเลที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนจน

ในช่วงปี 1973 ถึง 1974 ตลาดหุ้นตกลงอย่างหนักและหุ้นก็ถูกซื้อขายในราคาถูก แต่ยังมีนักลงทุนที่ยังคงอยู่ในตลาดหุ้นและไม่รู้ตัวว่ากำลังหมดตัว มันจะช่วยคุณได้อย่างมากถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ในตลาดหุ้น

ผมจะไม่พยายามกระโดดข้ามรั้วที่สูง 7 ฟุตแต่ผมจะมองรอบๆเพื่อหารั้วที่สูงแค่ 1 ฟุต ซึ่งผมสามารถเดินข้ามได้อย่างสบายๆ

วอเร็นจะมองหาบริษัทซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาที่จะคงอยู่ต่อไปอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งราคาที่มีความเหมาะสมไม่ว่าเขาจะซื้อหุ้นเพียงบางส่วนหรือซื้อทั้งหมด คนส่วนใหญ่มักมองตลาดหุ้นในระยะสั้นๆซึ่งจะละเลยภาพระยะยาวของธุรกิจนั่นหมายความว่ามูลค่าของธุรกิจชั้นยอด จะถูกประเมินในราคาที่แสนถูกอยู่บ่อยๆ เขาจึงยึดมั่นกับความเรียบและง่าย แล้วปล่อยให้การทำนายตลาดและกลยุทธ์เป็นเรื่องของคนอื่นๆในวอลสตรีท

ห่วงโซ่ของความเคยชินนั้นมันเบาเกินกว่าที่จะรู้สึกได้แต่คุณจะรู้สึกมันเมื่อมันรัดคุณแน่นจนเกินกว่าที่คุณจะดิ้นหลุด

เรามักจะปล่อยปะละเลยพฤติกรรมที่ไม่ดีจนกระทั่งมันสายเกินไป ตัวอย่างเช่น การที่จะควบคุมต้นทุนการผลิตเมื่อธุรกิจของคุณประสบปัญหา แต่การควบคุมต้นทุนเป็นสิ่งที่จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดปัญหา ธุรกิจที่ขยายตัวรวดเร็วเหมือนฟองสบู่การใช้เงินอย่างไม่ระวังในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น คือธุรกิจจะจมลงอย่างรวดเร็วในช่วงเศรษฐกิจขาลง พฤติกรรมไม่ดีเหล่านี้ มันยังบอกคุณได้ว่าทีมบริหารของคุณ ใช้เงินอย่างไม่ถูกทาง มันจะดีกว่าถ้าคุณมีสติแล้วตรวจสอบว่าคนของคุณกำลังจะพาคุณไปที่ไหน

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับวอเร็นในการใช้กลยุทธ์การลงทุน คือการซื้อหุ้นที่ขายในราคาที่ถูกกว่ามูลค่าทางบัญชี ทำให้ประสบความสำเร็จในช่วงปี 1950 ถึง 1960 แต่จนกระทั่งปี 1970 วอเร็นก็ตื่นขึ้นมาแล้วพบกับความจริงว่าการใช้กลยุทธ์ซื้อหุ้นในราคาถูกหมดสมัยไปแล้ว เขาจึงปรับกลยุทธ์โดยการซื้อธุรกิจชั้นยอดในราคาที่เหมาะสมและถือหุ้นนั้นในระยะยาว แล้วปล่อยให้มูลค่าของธุรกิจนั้นเติบโต เขาสามารถทำเงินได้หลายพันล้านเหรียญในกลยุทย์แบบนี้

การแต่งงานเพื่อเงินนั้นไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็คงจะเป็นความคิดที่ไม่ดี

แต่มันคงจะเป็นเรื่องบ้าสุดสุดถ้าจะแต่งงานเพื่อเงินในขณะที่คุณรวยอยู่แล้ว

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าถ้าคุณแต่งงานเพื่อเงิน เงินทุกบาททุกสตางค์ของเขาหรือเธอก็จะเป็นเงินของคุณด้วย แต่ถ้าคุณรวยอยู่แล้ว ทำไมคุณจะต้องลงทุนขนาดนั้น มันจะง่ายกว่าไหมถ้าคุณจะแต่งงานด้วยความรักและค่อยค่อยหาเงินทีหลัง นี่คือสิ่งที่วอเร็นทำร่วมกับภรรยาของเขาที่ชื่อ ซูซี่ และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือคู่ที่ทำเงินด้วยกันก็มักจะยังอยู่ร่วมกันเสมอ

มันไม่จำเป็นที่จะต้องทำสิ่งมหัศจรรย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มหัศจรรย์

ในฐานะนักลงทุนคนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรวยในชั่วข้ามคืนเพื่อบันปลายชีวิตที่มั่นคง วอเร็นคาดหวังผลตอบแทนที่ 20% ต่อปีไม่ใช่ 200% ต่อปี คุณจะเป็นผู้ชนะที่ชนะอย่างช้าๆ แต่มั่นคง ไม่ใช่ชนะด้วยความหวือหวาในโลกที่เต็มไปด้วยความพยายามในการสร้างผลตอบแทน 100% ต่อปี นั้นความผิดพลาดจะเกิดขึ้นได้อย่างมากมาย แต่ถ้าเราพิจารณาถึงธุรกิจในระยะยาวแล้วการสร้างผลตอบแทนให้ได้ 20% ต่อปีนั้นมันง่ายมากๆ

คุณควรจะมองว่าหุ้นนั้นคือส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของธุรกิจ

บางครั้งเมื่อนักลงทุนซื้อหุ้นพวกเขามักจะลืมไปว่าพวกเขากำลังซื้อส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของธุรกิจ วอเร็นชอบที่จะมองว่า การเป็นเจ้าของหุ้นนั้น คือการเป็นเจ้าของส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของธุรกิจ ถ้ามองหุ้นแบบนี้แล้วเค้าจะสามารถตัดสินใจได้ว่าเขากำลังจะจ่ายเงินมากเกินไปหรือไม่สำหรับธุรกิจที่เขากำลังสนใจจะซื้อ เค้าจะคูณราคาของหุ้นเข้ากับจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีของบริษัท เพื่อหามูลค่าตลาดของบริษัทนั้น แล้วก็ถามตัวเองว่าราคานี้เหมาะสมหรือไม่สำหรับการซื้อหุ้นทางบริษัท ถ้าราคานั้นแพงเกินกว่าที่จะซื้อบริษัทนั้นก็หมายความว่า ราคานั้นแพงเกินกว่าที่จะซื้อหุ้นแม้แต่เพียงหุ้นเดียวด้วยแนวความคิดแบบนี้จะช่วยให้คุณหลุดพ้นออกจากวังวนของการเก่งกำไรอย่างบ้าคลั่ง

ความเห็นของผมเกี่ยวกับการตัดสินใจเป็นคณะคือการมองเขาไปในกระจก

วอเร็นไม่ใช่คนที่ต้องการยืนยันหรือการยอมรับจากบุคคลอื่นเพราะว่าความคิดของเค้าหลายหลายเรื่องนั้นตรงข้ามกับสิ่งที่สังคมหรือนักลงทุนกำลังคิดการที่จะทำให้เงินก้อนโตในโลกของการลงทุนคุณจะต้องเรียนรู้ในการคิดให้เป็นอิสระและการที่จะคิดอย่างอิสระได้นั้นคุณจำเป็นจะต้องสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวยังไม่อึดอัด

วอเร็นนั้นมีประวัติเกี่ยวกับการยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองคนเดียวโดยไม่มีใครเห็นด้วยกับเขาเมื่อย้อนเวลากลับไปตอนที่เขาเริ่มอาชีพนักลงทุนใหม่ใหม่เค้าเลือกที่จะอยู่ในโอมาฮาแทนที่จะเป็นนิวยอร์กเพราะว่าที่โอมาหานั้นห่างไกลจากอิทธิพลของวอสตรีท บริษัทที่เค้าซื้อเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น General foods , RJR Tobacco เขาซื้อเมื่อไม่มีใครต้องการมันบริษัทที่เค้าลงทุนนั้นสามารถสร้างกำไรให้เขาได้อย่างมหาศาลถ้าเค้าต้องรอความเห็นจากคณะผู้เชี่ยวชาญแห่งวอสตรีทเพื่อความมั่นใจในการลงทุนของเค้า เค้าคงจะพลาดตกรถไฟขบวนสำคัญสำคัญที่เค้าลงทุนเหล่านี้ไปอย่างน่าเสียดาย

ถ้าผมไม่สามารถทำกำไรได้ในตลาดหุ้นสหรัฐที่มีขนาดถึง 5 ล้านล้านเหรียญ มันอาจจะเป็นความคิดที่ดีก็ได้ที่จะคิดถึงการไปลงทุนในต่างประเทศที่ห่างออกไปสอง สามไมล์ และผมจะแสดงฝีมือของผมให้พวกเขาดู

เรื่องที่น่าแปลกก็คือ 10 ปีหลังจากที่เขาพูดเรื่องนี้วอเร็นได้ไปลงทุนในต่างประเทศเพื่อแสดงฝีมือของเค้าจริงๆในปี 2003 เค้าลงทุนประมาณ 50 ล้านเหรียญในบริษัท PetroChina ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมัน และรัฐบาลจีนถือหุ้นอยู่ 90% และเขายังได้พูดติดตลกอีกว่าระหว่างคุณกับผมเราสองคนรวมกันก็คือผู้ควบคุมบริษัทบริษัทน้ำมันที่ทำกำไรได้สูงสุดเป็นอันดับสี่ของโลก และมันสามารถผลิตน้ำมันดิบดิบได้มากพอ แต่วอเร็นซื้อ PetroChina มาในราคาเพียงแค่หนึ่งในสามของราคาเฉลี่ยของอุตสาหกรรมน้ำมันในตะวันตก และถ้าคุณสงสัยว่าผลลัพธ์ของการลงทุนครั้งนี้เป็นอย่างไร คำตอบก็คือราคาของหุ้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 400% หลังจากที่เขาซื้อหุ้นถ้านี่ไม่เรียกว่าแสดงฝีมือก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว

คุณควรจะลงทุนในธุรกิจที่แม้กระทั่งคนโง่ก็สามารถบริหารได้เพราะว่าวันนึงมันอาจจะเป็นแบบนั้น

ในตลาดหุ้นนั้นเต็มไปด้วยธุรกิจที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและธุรกิจที่มีปัจจัยพื้นฐานแย่ แน่นอนว่าคุณจะต้องลงทุนในธุรกิจที่มีปัจจัยพื้นฐานดีเพราะว่าหุ้นที่มีพื้นฐานดีนั้นมันยากที่จะมีใครมาทำอันตรายมันได้ บริษัทที่วอเร็นลงทุนส่วนใหญ่ล้วนเป็นบริษัทที่มีภูมิต้านทานความทึ่มของผู้บริหาร คุณยังแน่ใจได้ว่าบริษัทจะยังทำเงินให้คุณแม้ในขณะที่คนทึ่มๆเข้ามาเป็นซีอีโอ แต่ถ้าคุณต้องกังวลเกี่ยวกับการที่คนทึ่มๆจะเข้ามาบริหารถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วการลงทุนของคุณอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีก็ได้ และบางทีคุณก็ไม่ควรที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้าไม่อย่างนั้นคุณอาจจะกลายเป็นคนทึ่มซะเอง

ทุกครั้งที่คุณจะลงทุนคุณควรมีความกล้าและมั่นใจที่จะลงทุนอย่างน้อย 10% ของเงินที่คุณมีทั้งหมดในหุ้นนั้น

ความมั่นใจนั้นอยู่บนพื้นฐานว่าคุณรู้และแน่ใจว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นแต่ความคาดหวังนั้นอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่คุณหวังว่ามันจะเกิดขึ้น การที่จะทำกำไรจากเกมการลงทุนนั้น คุณจะต้องมีความมั่นใจ นั่นหมายความว่าคุณจะต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ เส้นทางสู่ความสำเร็จของวอเร็นนั้นคือการที่เขามีความมั่นใจในการลงทุนและลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก การคิดแบบนี้จะทำให้คุณลงทุนแบบมุ่งเน้นและแน่นอนว่าคุณจะต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดีแล้วก่อนที่คุณจะเริ่มลงทุน

ในบางสถานการณ์เงินจะทำให้คุณเป็นที่สนใจของสังคมแต่เงินไม่สามารถเปลี่ยนจำนวนของคนที่รักคุณและสุขภาพที่ดีของคุณได้

เป็นความจริงที่ว่าบางครั้งการมีเงินมากเกินไปก็สามารถสร้างความหายนะให้กับชีวิตของคุณได้ ลูกๆ ของคุณจะไม่ทำงานเพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขาจะได้รับมรดกก้อนโตจากคุณในอนาคต นั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้เนื่องจากการทำงานนั้นทำให้เกิดการพัฒนาตัวเองแต่พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า และใช้เวลาให้หมดไปวันวันพร้อมกับอธิษฐานให้คุณตายไวๆ และถ้าคุณรวยแบบหลุดโลกคุณอาจจะถูกล้อมรอบไปด้วยพวกชอบประจบสอพลอซึ่งพวกเขาจะเติมเต็มชีวิตของคุณด้วยเรื่องโกหกหลอกลวง และแทนที่คุณจะใช้เงินที่คุณมีไปกับการท่องเที่ยวผจญภัยอันแสนสนุกคุณจะต้องจบชีวิตลงด้วยการใช้เวลาทั้งหมดของคุณไปกับการป้องกันความมั่งคั่งของคุณจากพวกลูกน้องนักประจบ และจากพวกที่ชอบเรียกตัวเองว่าผู้จัดการการเงินบุคคลเหล่านี้พยายามช่วยคุณทุกวิถีทางในการที่จะทำให้เงินของคุณกลายเป็นของพวกเขา

วอเร็นเชื่อว่าเด็กๆ ที่ถูกเลี้ยงมาด้วยความคาดหวังว่าจะได้มรดกก้อนโตนั้นมีแนวโน้มว่าจะไม่ทำอะไรกับชีวิตของตัวเอง แล้วปล่อยให้เวลาผ่านไปวันวัน ถ้าสังคมถูกสร้างด้วยเด็กเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบนี้เค้าเชื่อว่าประเทศจะเจริญรุ่งเรือง ถ้าสังคมนั้นเต็มไปด้วยบุคคลซึ่งประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง เต็มไปด้วยคนที่ได้รับสิ่งที่ตัวเองนั้นเป็นคนหามา ด้วยเหตุผลนี้เค้าจึงบริจาคเงินที่เขาได้จากการลงทุนให้กับองค์กรการกุศลเพื่อที่เงินก้อนนี้นั้นจะได้หมุนเวียนกลับไปช่วยเหลือสังคม และสังคมนี่เองคือสิ่งที่ทำให้เกิดเงินก้อนนี้ขึ้นมาได้

การบริหารธุรกิจ

ทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถยั่งยืนอยู่ได้ตลอดไป มันจะต้องสิ้นสุดลงเสมอ

ราคาหุ้นที่พุ้งขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วจะหยุดลงทันที่เมื่อความจริงของพื้นฐานธุรกิจปรากฏตัวขึ้น เมื่อธุรกิจไม่สามารถทำกำไรได้ตามที่คาดหวัง

ธุรกิจส่วนใหญ่ทำกำไรได้ดี แต่แน่นอนว่าวันหนึ่งในอนาคตจะต้องมีวันตกต่ำ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อสิ่งต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทุกสิ่งมีวันจบลง นี่คือเหตุผลที่คุณจะมองเฉพาะสิ่งที่คุณทำไม่ได้ คุณต้องมองไปให้ไกล

มีหลายครั้งที่วอเร็นลงทุนในธุรกิจที่กำลังจะถึงทางตัน ธุรกิจที่สูญเสียความสามารถในการทำกำไรและไม่สามารถต้านทานการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจได้ แม้กระทั่งอัจฉริยะก็สามารถพลาดได้ในการมองไปข้างหน้า

เมื่อผู้บริหารที่มีชื่อเสียงดีมากในการขับเคลื่อนธุรกิจเข้ามาทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงในเรื่องของพื้นฐานที่แย่ ชื่อเสียงที่แย่นั้น ก็ยังจะแย่อยู่เหมือนเดิม

ธุรกิจที่โดดเด่นจะมาพร้อมกับปัจจัยพื้นฐานที่ดี เมื่อเกิดปัญหาจะมีหนทางการแก้ปัญหาอยู่เสมอ แต่เมื่อธุรกิจที่พอใช้ได้จะมาพร้อมกับพื้นฐานที่แย่ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรอดจากปัญหา ไม่ว่าผู้บริหารจะเก่งแค่ไหนก็ตาม ธุรกิจที่โดดเด่นจะเต็มไปด้วยเงินสด และมีหนี้น้อยหรือไม่มีเลย จะสามารถเอาตัวรอดในสถาณการณ์ที่ย่ำแย่ได้ แต่ธุรกิจที่พอใช้ได้นั้นจะต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินสด และเต็มไปด้วยหนี้สิน ถ้าเกิดปัญหาเค้าจะต้องกู้เงินมาจ่าย และจะนำไปสู่ปัญหาที่หนักขึ้น ไม่ว่าผู้บริหารจะพอใช้หรือเก่งซะแค่ไหน ถ้าพื้นฐานของธุรกิจไม่ดีจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ย่ำแย่เสมอไป

บัญชีคือภาษาของโลกธุรกิจ

มีวิธีมากมายที่อธิบายว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับธุรกิจ แต่ไม่ว่าอย่างไรจะกลับมาด้วยภาษาของบัญชี เมื่อวอเร็นได้ถามเพื่อนว่า ลูกสาวกำลังเรียนอะไรอยู่ เพื่อนเขาตอบว่า “บัญชี เพราะมันคือภาษาของโลกธุรกิจ” ในการอ่านงบการเงิน คุณจะต้องถอดรหัสตัวเลขเหล่านั้น และรหัสเหล่านั้นคุณจะต้องรู้เรื่องของบัญชี

การฟื้นตัวนั้นไม่บ่อยนักที่จะเกิดขึ้น

ในตลาดหุ้นนั้นจะมีหุ้นที่มีพื้นฐานไม่ดีที่ขายในราคาเหมือนว่าจะถูก วอเร็นนั้นจะมองหาธุรกิจที่ดีซึ่งขายในราคาที่เหมาะสม หรือหาธุรกิจที่ดีเยี่ยมขายในราคาที่ถูก ธุรกิจที่ไม่ดีก็คือไม่ดี ไม่ว่าคุณจะซื้อมาด้วยราคาเท่าไรก็ตาม ราคาหุ้นนั้นอาจเปลี่ยนแปลงแต่พื้นฐานของธุรกิจนั้นยังคงเดิม มีซีอีโอหลายคนที่เชื่อว่าเขามีพลังวิเศษที่สามารถเปลี่ยนให้ไม่ดีเป็นดีได้ วอเร็นเชื่อว่าพลังการบริหารและเงินทุนที่พอๆกัน ถ้าซื้อธุรกิจที่มีพื้นฐานที่ดีขายในราคาที่เหมาะสมจะดีกว่าการซื้อกิจการที่ไม่ดีและต้องลุ้นกับซีอีโอที่เชื่อว่าจะเปลี่ยนธุรกิจให้ดีขึ้นได้แม้จะขายในราคาที่ถูกก็ตาม

ถ้าบริษัททำผลงานได้ดีหุ้นก็จะดีตามเสมอ

        วอเร็นเชื่อมั่นว่า ถ้าปัจจัยพื้นฐานที่รองรับดี ราคาหุ้นในระยะยาวก็จะเพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจ ในทำนองเดียวกัน ถ้าปัจจัยพื้นฐานไม่ดี ราคาหุ้นในระยะยาวก็จะลดลงเพื่อสะท้อนมูลค่าพื้นฐานของธุรกิจ ในระยะยาวมูลค่าของธุรกิจจะเป็นตัวปรับแก้ราคาหุ้นไม่ว่าทิศทางใดก็ตาม ด้วยเหตุนี้หุ้นที่วิ่งทะลุเดานในช่วงตลาดกระทิง ที่สุดแล้วก็ดิ่งลงเหว ในทำนองเดียวกันบริษัทชั้นยอดหลายแห่งที่ราคาดิ่งลในช่วงตลาดขาลงในเวลไม่นานก็จะสามารถฟื้นกลับตัวมาได้

ถ้าคุณซื้อหุ้นแล้วราคาที่ซื้อนั้นถูกเหยียบจนแบนคุณก็ยังมั่นใจได้ว่าในระยะยาวแล้วพื้นฐานธุรกิจของคุณยังดีอยู่ ถ้าธุรกิจของคุณทำผลงานได้ดีในระยะยาวแล้ว ราคาหุ้นของคุณก็ดีขึ้นอย่างแน่นอน ราคาหุ้นจะขึ้นดีธุรกิจต้องทำผลงานได้ดีและการที่ทำผลงานได้ดีนั้นจะมีโอกาสมากขึ้น ถ้าธุรกิจนั้นเคยเป็นธุรกิจชั้นยอดแต่ประสบปัญหาแล้วกำลังจะปรับตัวขึ้นมาใหม่

การจัดการกับอาชีพการงานของคุณนั้น ก็เหมือนกับการลงทุน คือระดับของความยากนั้นไม่นับ ดังนั้นคุณควรจะป้องกันตัวคุณเอง เงินของคุณ และความเสียใจ ด้วยการขึ้นรถไฟให้ถูกขบวน

คุณต้องเรียนรู้ว่าธุรกิจที่จะลงทุนเป็นแบบไหน หรือว่างานแบบไหนที่คุณควรจะทำ ถ้าคุณไปทำงานกับบริษัทที่มีพื้นฐานไม่ดีในระยะยาว คุณก็ไม่สามารถทำงานได้ดี เพราะเงินเดือนอาจจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่จะตกงาน เพราะผู้บริหารจะต้องถูกกดดันให้ลดต้นทุน

แต่ถ้าคุณทำงานกับบริษัทที่มีพื้นฐานยอดเยี่ยม การได้งานกับบริษัทอย่างนี้ถือว่าโชคดีมาก บริษัทจะเต็มไปด้วยเงินสด คุณจะได้รับเงินเดือนอัตราที่สูง ได้เพิ่มเงินเดือน ได้เลื่อนตำแหน่ง และมีโอกาสเติบโตเป็นผู้บริหาร ดังนั้นคุณต้องทำงานกับบริษัทที่มีกำไรที่สูงและทำเงินได้มากๆ คุณต้องอยู่ห่างกับบริษัทที่มีกำไรต่ำและกำลังขาดทุน

ผลลัพธ์ของผู้บริหารที่อ่อนแอและทำงานย่ำแย่ ก็คือบัญชีที่ไม่น่าเชื่อถือ

ถ้าธุรกิจมีสภาพย่ำแย่และต้องพยายามต่อสู้เพื่อหาทางรอดบวกกับผู้บริหารที่ขาดคุณธรรมก็จะทำให้นักบัญชีหาวิธีต่างๆ เพื่อสร้างกำไรปลอมๆ ขึ้นมา ผลลัพธ์ที่ได้คือบัญชีไม่น่าเชื่อถือ มันเป็นเรื่องง่ายที่ใช้วิธีนี้ การลดต้นทุนและเพิ่มรายได้นั้นมันง่าย การเพิ่มของกำไรจะสร้างความยินดีให้กับผู้ถือหุ้นและในตลาดหุ้นจะทำให้ราคาของหุ้นนั้นเพิ่มขึ้น จากนั้นก็ได้โบนัสก้อนโตๆ และยังได้รับเชิญไปทานอาหารกับประธานาธิบดีอีกด้วย

มันแตกต่างกันอย่างมากระหว่างธุรกิจที่จะเติบโตได้ก็ต่อเมื่อต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มจำนวนมากกับธุรกิจที่สามารถเติบโตได้โดยไม่ต้องการเงินลงทุนเพิ่ม

นี่คือเคล็ดลับสำคัญ การซื้อแล้วถือหุ้นนั้นไปตลอด ธุรกิจที่สามารถเติบโตได้โดยไม่ต้องอัดฉีดเงินลงทุนเพิ่ม ทำให้การลงทุนไปกับสิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มผลกำไรต่อหุ้นให้กับบริษัทได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมวอเร็นถึงชอบบริษัท Coca-Cola แต่ไม่ชอบ GM และ Intel เพราะ Coca-Cola ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินในการออกแบบปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งทำให้เหลือเงินจำนวนมากเพื่อใช้ไปกับสิ่งอื่นๆ ในอีกทางหนึ่ง GM และ Intel ต้องใช้เงินในการออกแบบและปรับปรุงเครื่องจักรใหม่ ถ้าพวกเขาหยุดลงทุนปรับปรุงให้ทันสมัย พวกมันจะถูกเขี่ยออกจากธุรกิจโดยคู่แข่งอย่างรวดเร็ว ถ้าธุรกิจต้องการเงินจำนวนมากในการเติบโตมันจะไม่ทำให้คุณรวย แต่ถ้ามันไม่ต้องการเงินลงทุนในการเติบโตมันก็จะไม่มีวันทำให้คุณจน

ในธุรกิจที่กำลังประสบปัญหา เมื่อปัญหาหนึ่งถูกแก้ไข อีกไม่นานปัญหาใหม่ก็จะโผล่ขึ้นมา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีแมลงสาบแค่ตัวเดียวในห้องครัว

ธุรกิจที่พื้นฐานไม่ดีก็เหมือนเรือที่แล่นไร้จุดหมาย และผลตอบแทนต่ำ ถ้าธุรกิจต้องแข่งขันอย่างหนักยิ่งทำให้กำไรมีอยู่น้อยนิด ไหนจะค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงงานเพื่อในการแข่งขัน เช่นบริษัทผลิตรถยนต์แห่งหนึ่งจะปรับปรุงสายการผลิตต้องใช้เงินมหาศาลในการเปลี่ยนแปลงเครื่องจักร ถ้าตัดสินใจผิดพลาดก็อาจทำให้บริษัทล้มละลายก็ได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้เงินทุนไหลออกและไม่สามารถเอาไปใช้เพิ่มรายได้ ผลจากวิกฤตกำไรที่ตกต่ำก็คือจะต้องต่อสู้กับต้นทุน และอาจยังแข่งขันสู้กับแรงงานราคาถูก คุณก็อาจจะพบว่าธุรกิจไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้แล้ว การลงทุนระยะยาวประเภทนี้คุณควรจะอยู่ให้ห่างเข้าไว้

คุณสามารถที่จะเพิ่มยอดขายได้ด้วยการลงไปจากตลาดสินค้าด้อยคุณภาพ แต่มันยากมากในการที่จะกลับมาสู่ตลาดสินค้าคุณภาพ

คุณจะคิดถึงสินค้าที่มีแบรนด์เมื่อคุณต้องการจะใช้สินค้านั้นๆ สินค้าเหล่านี้สามารถจับจองพื้นที่ในใจได้ ลูกค้าล้วนคาดหวังในคุณภาพของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ผู้ผลิตสามารถจะขึ้นราคาให้สูงเพื่อเติมเต็มความต้องการต่างๆได้ และยังต้องใช้เงินจำนวนมาก เพื่อที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนอยู่ในสถานะชั้นยอด

อย่างไรก็ตามผู้ผลิตต้องการเพิ่มกำไรด้วยการลดคุณภาพ มันจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจากการเสียพื้นที่ในใจของลูกค้าไป เช่น เราเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เราชอบเนื่องจากผู้ผลิตต้องการกำไรมากขึ้นและลดคุณภาพสินค้าลง เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมันยากที่ผู้ผลิตจะกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมได้ เพราะประสบการณ์แย่ๆ ได้เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคอย่างถาวรแล้ว

การที่ซีอีโอนั้นได้รับการกระตุ้นให้ทำข้อตกลงต่างๆ จากบรรดาที่ปรึกษานั้นก็เปรียบได้กับพอที่กระตุ้นให้ลูกชายไวรุ่นมีเซ็กส์ ซึ่งนั่นเป็นการกระตุ้นที่ไม่จำเป็น

การเป็นซีอีโอนั้นไม่สามารถนั่งเฉยๆได้ พวกเขาจะถูกกระตุ้นหรือจูงใจให้ทำข้อตกลงต่างๆ เพื่อสร้างภาพให้สมกับอัตราเงินเดือนที่สูง นอกจากนั้นแล้ว การที่จะสร้างปัญหาใหม่ๆ เข้ามา มันง่ายกว่าการแก้ปัญหาเก่าที่มีอยู่ ทางออกของวอเร็นเกี่ยวกับปัญหาที่แย่ๆ คือการทำให้เงินเติบโตจากการซื้อเฉพาะบริษัทที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืนแล้วเท่านั้น ส่วนบริษัทอีกประเภทหนึ่งวอเร็นจะเรียกว่าบริษัทธุรกิจโภคภัณฑ์ ซึ่งดูได้จากผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ต่ำและรายได้เอาแน่เอานอนไม่ได้ วอเร็นจะมองหาบริษัทที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน ถ้าเขาหามันพบเขาจะกระโดดใส่มันภายใน 10 นาที หลังจากที่เขาเห็นข้อตกลง

คุณไม่จำเป็นจะต้องทำเงินคืนด้วยวิธีเดียวกับสิ่งที่คุณเสียมันไป

นักลงทุนมือใหม่อาจจะคิดว่าทั้งตลาดมีเกมอยู่เกมเดียว นั่นคือเกมของคุณที่พวกเขาเพิ่งจะขาดทุนกับมันไป ดังนั้นเขาจึงพยายามเล่นเกมกับหุ้นตัวนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาหวังว่าโชคอาจจะหันมาเข้าข้างเขาบ้าง แท้จริงแล้วทุกสิ่งนั้นอยู่บนเงื่อนไข 2 อย่างคือ คุณภาพของบริษัทและราคาที่คุณจ่ายไป ซึ่งมันต้องสัมพันธ์กับคุณภาพของบริษัทด้วย ยิ่งบริษัทดีมีคุณภาพสูงราคาก็สูงตามไปด้วย ซึ่งนั่นก็อาจไม่ใช่ข้อตกลงที่ดีเท่าไหร่ แต่บางครั้งตลาดหุ้นก็อาจเสนอขายหุ้นที่มีคุณภาพสูงแต่ราคาแสนจะต่ำและนี่คือวิธีทำเงินที่ง่ายที่สุด สิ่งที่คุณต้องทำคือยืนให้ห่างจากหุ้นที่มีคุณภาพต่ำในราคาแพง และมองหาหุ้นที่มีคุณภาพสูงราคาต่ำ ดังนั้นจงอดทนรอจนกระทั่งคุณพบโอกาสที่จะมาพร้อมกับ Margin of Safety จากนั้นคุณก็ทุ่มให้สุดตัว

ผมมองหาธุรกิจที่ผมคิดว่าผมสามารถคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นใน 10-15 ปีข้างหน้า เช่น บริษัทหมากฝรั่ง Wrigley’s ผมไม่คิดว่าอินเตอร์เน็ตจะสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่พวกเราเคี้ยวหมากฝรั่งได้

ผลิตภัณฑ์ที่มั่งคงนั้นเท่ากับผลกำไรที่มั่นคง ถ้าผลิตภัณฑ์ไม่จำเป็นจะต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง ทำให้คุณตกเป็นเหยื่อของการขึ้นๆ ลงๆ ตามแฟชั่น คุณลองนึกถึงเบียร์ น้ำอัดลม และลูกอม พวกเขาก็ได้ผลิตแต่แบบเดิมๆ มาเป็นเวลากว่า 100 ปี คุณเคยคิดไหมว่าคุณสามารถจะคาดการณ์บริษัทเหล่านี้มีแนวโน้มจะขายสินค้าอะไรในอีก 15 ปีข้างหน้า ถ้าคุณคาดการณ์ได้คุณอาจจะเป็น วอเร็น บัฟเฟตต์ คนต่อไปก็ได้

ต้นแบบของวอเร็น

การที่เราได้นั่งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ในวันนี้นั้นเป็นเพราะว่ามีใครบางคนได้ปลูกต้นไม้เอาไว้ในอดีต

เป็นเพราะ เบนจามิน เกรแฮม ซึ่งเป็นต้นแบบของวอเร็นในการพัฒนาทฤษฎีการลงทุนแบบเน้นคุณค่า วอเร็นก็อาจไม่มีโอกาสได้ออกมาจากร้านขายของชำคุณปู่ วิธีที่ง่ายที่สุดจะกลายเป็นคนฉลาดก็คือไปยืนอยู่บนไหล่ของยักษ์ แต่คุณต้องเลือกยักษ์ให้ถูกตนเท่านั้น วอเร็นเขาเลือกที่จะยืนบนไหล่ของเกรแฮม บุคคลที่เป็นที่รู้จักในนามของอาจารย์ใหญ่แห่งวอลสตรีท เขาเป็นผู้พัฒนาทฤษฎีการลงทุนแบบเน้นคุณค่า วอเร็นได้มีโอกาสเรียนวิชาของเกรแฮมที่มหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบวอเร็นได้ไปทำงานกับเกรแฮมที่วอลสตรีท และเรื่องราวต่อมาก็คือ การกำเนิดตำนานสุดยอดนักลงทุน

ด้วยข้อมูลอินไซด์ที่มากพอบวกกับเงินล้านเหรียญ คุณจะถังแตกภายใน 1 ปี

คุณควรจะรู้ว่าข้อมูลอินไซด์คนอื่นๆเขาก็ได้รับมันด้วย และมันมักจะซื้อขายหุ้นตามข้อมูลที่ได้มา วอเร็นมักจะพูดว่าข้อได้เปรียบในการอยู่ที่โอฮาม่า คือการไม่มีผู้คนรอบข้างมากระซิบข้อมูลหลังอาหารกลางวัน หลายครั้งที่การเผยแพร่ข้อมูลหรือข่าวลือไร้สาระสามารถผลักดันราคาให้พุ่งสูงขึ้นได้ ดังนั้นคนที่ปล่อยข่าวลือก็สามารถจะเทขายหุ้นของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย เรื่องที่โด่งดังมากในช่วงทศวรรษที่ 1920 คือเรื่องของ เบอร์นาร์ด บารูช มีชื่อเสียงในการขายหุ้นของเขาทั้งหมดเร็วที่สุดเมื่อมีคนมากระซิบข้อมูลเด็ดๆ ให้เขากับหุ้นตัวนั้น อย่างไรก็ตามเขาได้เสียชีวิตอย่างคนที่รวยมากๆ

อ่าน เบน เกรแฮม และ ฟิล ฟิชเชอร์ อ่านรายงานประจำปี และอย่าไปยุ่งกับสมการที่มีตัวอักษรกรีกรวมอยู่ด้วย

เบน เกรแฮม สอนว่าคุณควรจะซื้อหุ้นเมื่อมันขายในราคาที่ต่ำเมื่อเทียบกับมูลค่าในระยะยาวของมัน ราคาที่ต่ำจะทำให้มี

Margin of Safety เพื่อป้องกันหายนะต่างๆ ฟิล ฟิชเชอร์ บอกว่าคุณควรจะซื้อหุ้นในบริษัทที่มีคุณภาพสูงและก็ถือไว้นานๆ นานพอที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับคุณได้ วอเร็นนำสมการทั้งสองมาผูกรวมกันเป็น “ซื้อบริษัทที่มีคุณภาพสูงในราคาต่ำเมื่อเทียบกับมูลค่าของมันและถือไว้นานๆ” วอเร็นจึงสามารถทำเงินได้มากกว่าทั้งเบนและฟิล ซึ่งทั้งสองก็เป็นสุดยอดนักลงทุนในช่วงเวลาของตน

ผมเป็นนักลงทุนที่ดีเพราะว่าผมเป็นนักธุรกิจ และผมเป็นนักธุรกิจที่ดีเพราะว่าผมเป็นนักลงทุน

นักธุรกิจที่ฉลาดจะสามารถแยกธุรกิจที่ดีออกจากธุรกิจที่ไม่ดีได้ และนักลงทุนที่ฉลาดจะสามารถแยกได้ว่าหุ้นนั้นกำลังขายในราคาถูกหรือแพง การจะเป็นนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่คุณต้องรู้ว่าธุรกิจไหนดีและไม่ดี และเมื่อคุณจะซื้อคุณต้องรู้ว่าอะไรกำลังขายในราคาถูกหรือแพง การรวมกันของนักธุรกิจและนักลงทุนที่ชาญฉลาดสามารถทำกำไรได้เป็นพันล้าน มันไม่ง่ายแต่มันก็ไม่ยาก

ถ้าหลักการนั้นล้าสมัยมันก็ไม่ใช่หลักการอีกต่อไป

เช้าวันหนึ่งวอเร็นตื่นขึ้นมาพบว่า หลักการที่เขาได้เรียนจาก เกรแฮม ใช้ไม่ได้ผลแล้ว การซื้อบริษัทถูกโดยไม่สนใจพื้นฐานของกิจการ กลยุทธ์นี้ใช้ได้ดีในช่วงปี 1940 ถึง 1950 แต่มันเริ่มใช้ได้ยากเมื่อมีนักลงทุนจำนวนมากหันมาใช้ตาม แต่วอเร็นได้เริ่มใช้ปรัชญาการลงทุนในบริษัทชั้นเลิศซึ่งมีความสามารถในการแข่งขันและขายในราคาที่เหมาะสม จากนั้นเขาก็ปล่อยให้เวลาทำหน้าที่และทำให้ผลกำไรเติบโตเพิ่มขึ้น

คุณจะจ่ายราคาที่สูงเกินไปมากในตลาดหุ้น สำหรับความพอใจที่ได้ทำตามฝูงชน

ถ้าคุณเห็นพ้องต้องกันว่าหุ้นตัวนั้นจะเป็นตัวต่อไป คุณต้องจ่ายราคาที่สูงมาก และเหลือช่องว่างเพียงนิดเดียวในช่วงขาขึ้น สิ่งที่คุณต้องการคือหาหุ้นที่ไม่มีใครสนใจและถูกละเลยจากกองทุนใหญ่ๆ สิ่งใดก็ตามที่ขึ้นแล้วมันแล้วมันจะตกลงมาเสมอ และเมื่อมันตกมาแล้วก็สามารถจะกลับขึ้นมาได้อีก เราจะต้องให้ความสนใจในช่วงของการเริ่มฟื้นตัวกับขึ้นมาของหุ้นและไม่ควรจ่ายในราคาที่สูงเสียดฟ้าสำหรับหุ้นที่รอวันตก แต่เราควรจะจ่ายในราคาที่ถูกสำหรับหุ้นที่รอการขึ้น

การศึกษา

ถ้าแคลคูลัสและพีชคณิตคือสิ่งจำเป็นในการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จผมคงจะต้องกลับไปเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์

ตามความเห็นของวอเร็นความสามารถทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็นในการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ คือ ความสามารถในการบวก ลบ คูณ หาร ไหวพริบในการคำนวณเปอร์เซ็นต์ และความน่าจะเป็น อะไรที่นอกเหนือจากนี้ “มันไร้ประโยชน์” และถ้าความสามารถน้อยกว่านี้คุณไม่สามารถเล่นเกมการลงทุนได้

คุณจะต้องคิดด้วยตัวคุณเองมันน่าปลัดใจเสมอที่เห็นคนไอคิวสูงๆ ชอบที่จะเลียนแบบคนอื่นอย่างไรเหตุผล

พวกที่มีไอคิวสูงสูงหลายคนมักจะคิดว่าวิธีที่จะทำให้รวยคือการเลียนแบบคนอื่น นี่คือผลของระบบการศึกษาที่สอนให้นักศึกษาคิดตามแบบที่อาจารย์บอกไว้ ในวอลตรีททุกกลยุทธ์การลงทุนมีบทบาทสำคัญคือกลยุทธ์การเรียนแบบฝูงชนมันง่ายกว่าในการที่จะเสนอขายสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมให้กับคุณ ในทางตรงข้ามกันมันยากกว่ามากที่จะขายของที่ไม่เป็นที่นิยม วอเร็นไม่พยายามที่จะเสนอขายอะไรกับใคร เขาพยายามที่จะสร้างความร่ำรวยด้วยวิธีที่แตกต่างออกไป วิธีของเขาคือการไม่เดินตามฝูงชน แต่เค้าจะหาหุ้นที่วอสตรีทไม่ต้องการมันในวันนี้แต่จะขาดมันไม่ได้ในวันพรุ่งนี้

ยิ่งนักข่าวฉลาดเท่าไหร่สังคมก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น

พวกเราได้รับข้อมูลข่าวสารเพื่อการตัดสินใจในการลงทุนจากสื่อมวลชน ซึ่งนั่นหมายความว่าชีวิตการลงทุนทั้งหมดของเรานั้นขึ้นอยู่กับนักข่าวซึ่งต้องรายงานเขาอย่างแม่นยำและวิเคราะห์ข่าวอย่างเหมาะสมว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น วอเร็นมักจะเชื่อในความคิดที่ว่ายิ่งครูฉลาดเท่าไหร่ลูกศิษย์ก็ยังฉลาดเท่านั้น ก็เช่นกัน ถ้านักข่าวฉลาดเท่าไหร่สังคมก็ฉลาดขึ้นเท่านั้น

คุณจำเป็นต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ แต่ถ้าคุณสามารถทำได้คุณควรเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น

ประสบการณ์นั้นคือครูที่ดีที่สุด แต่มันอาจจะเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยเกินไปที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวคุณเอง มันจะดีกว่ามากที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่น นี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมวอเร็นได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษในการศึกษาความผิดพลาดในการลงทุนและธุรกิจของผู้อื่นอย่างละเอียด เขาต้องการที่จะเรียนรู้ว่าคนเรานั้นทำผิดพลาดได้อย่างไรเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทำผิดพลาดแบบนั้น

ที่ทำงาน

มันยากที่จะสอนคนหนุ่มให้เข้าใจลูกไม้เก่าๆ

วอเร็นพบว่าความเฉียบแหลมทางธุรกิจมาพร้อมกับอายุ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสอนเรื่องนี้ให้กับผู้จัดการรุ่นใหม่ๆ วอเร็นอายุ 70 กว่าๆ และยังมีหุ้นส่วนของเขาอายุ 80 กว่า วอเร็นไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนในการเกษียณอายุ ในโลกของวอเร็นอายุ 65 เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

ถ้าคุณกำลังจะจ้างพนักงาน คุณควรจะมองหาคุณสมบัติ 3 ประการ ประการแรกคือ คุณธรรม ประการที่ 2 คือ ความเฉลียวฉลาด และประการที่ 3 คือ พลังอันล้นเหลือ

การจ้างใครสักคนเหมือนว่าคุณกำลังมอบความไว้วางใจให้กับเขา ถ้าคนเหล่านี้ฉลาดและทำงานหนัก พวกเขาจะทำเงินให้คุณได้จำนวนมาก แต่ถ้าพวกเขาไม่ซื่อสัตย์เงินของคุณจะกลายเป็นของพวกเขา

คุณธรรมคือส่วนประกอบที่สำคัญในการบริหารของวอเร็น เมื่อวอเร็นได้เข้าซื้อบริษัทแห่งหนึ่ง เขาไว้ใจด้วยการไม่ขอตรวจดูบัญชีของบริษัท แต่เพียงถามเจ้าของว่าบริษัทนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ และวันรุ่งขึ้นวอเร็นก็เอาเช็คมาจ่าย เขาทำให้เจ้าของนั้นมีความประหลาดใจ เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวเจ้าของมากกว่านักบัญชีเยอะ

คุณสามารถอธิบายกลับมาได้ไหมว่าการเดินบนพื้นดินนั้นเป็นอย่างไร หนึ่งวันบนพื้นดินมีค่าเท่ากับหนึ่งพันปีในการพูดถึงมัน และวันหนึ่งในการบริหารธุรกิจก็มีคุณค่าแบบเดียวกัน

สิ่งเดียวที่ประยุกต์ใช้ได้กับโลกธุรกิจ คือการต้องรับมือกับปัญหาการผลิตที่เกิดขึ้นจริง การหาและรักษาลูกค้าจริงๆ นั่นเป็นอะไรที่ในห้องเรียนไม่สอน การที่จะทำให้บริษัทได้มาอยู่ในแถวหน้าของธุรกิจ อายุและประสบการณ์นั้นสำคัญกว่าความหนุ่มและความกระตือรือร้น

เมื่อคืนได้ซักผ่านไปแล้วเท่านั้น คุณถึงรู้ว่าใครกำลังแก้ผ้าว่ายน้ำ

บัญชีที่ถูกแต่งมาอย่างสวยหรูได้ทำให้บริษัทบางแห่งกลายเป็นที่รักของนักลงทุน และทำให้ราคาพุ่งถึงจุดสูงสุด แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆแล้วเงินไม่ปรากฏ ความน่าสนใจได้หายไป เหลือแต่บัญชีธนาคารที่ว่างเปล่าและการล้มละลาย ซึ่งเราต้องหาให้ได้ว่าใครกำลังแก้ผ้าว่ายน้ำก่อนที่คลื่นจะซัดผ่านเข้ามา

เมื่อความคิดของคุณล้มเหลว คำพูดแก้ตัวจะหลั่งไหลมาอย่างง่ายดาย

เมื่อความคิดของคุณล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า คุณได้เสียธุรกิจของคุณไป คุณจะหาคำพูดแก้ตัวต่างๆ นานา แต่คุณจะไม่ย้อนดูตัวเองว่าไร้ความสามารถหรือไม่ ซีอีโอบางคนหาคำพูดแก้ตัวดีๆมาปลอบใจผู้ถือหุ้นที่กำลังโกรธแค้นจากการบริหารงานที่ผิดพลาด ถ้าเขาไม่มีความสามารถ ทำไมเราถึงไม่ออกแสวงหาผู้นำที่เราคิดว่าสามารถจะบริหารธุรกิจได้ วอเร็นไม่เคยลืมว่าผู้ถือหุ้นของเบิร์กไชร์คือเจ้าของธุรกิจที่เขากำลังบริหาร นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา

ผู้บริหารที่ดีจริงๆ นั้นจะไม่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วพูดว่า “วันนี้คือวันที่เราจะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น” มันเหมือนกับการที่เขาตื่นขึ้นมาแล้วตัดสินใจว่าวันนี้จะต้องเริ่มฝึกหายใจ

ในโลกของธุรกิจผู้บริหารจำนวนมากมีปฏิกิริยาที่ช้าเกินไป วอเร็นเชื่อว่าในการบริหารที่ดีนั่นคือการแก้ไขสิ่งต่างๆที่อาจจะเป็นปัญหาก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริงๆ คุณต้องทำให้ต้นทุนต่ำตั้งแต่แรก จะทำให้บริษัทของคุณรอดพ้นจากการโจมตีของคู่แข่งและสามารถสร้างกำไรได้ ถ้าคุณพบว่าบริษัทกำลังเริ่มลดค่าใช้จ่าย คุณก็รู้ได้ทันทีว่าผู้บริหารกำลังหย่อนยานในการทำให้ต้นทุนต่ำตั้งแต่เริ่มแรก คุณคิดอย่างไรกับผู้บริหารที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องต้นทุน? คุณคิดหรือว่าผู้บริหารเหล่านี้จะทำเงินให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างมากมาย?

มันจะไม่ดีหรือ ถ้าเราสามารถจะซื้อความรักได้ด้วยเงิน 1 ล้านเหรียญ แต่ในโลกแห่งความจริงทางเดียวที่จะถูกรักก็คือ

การทำตัวให้น่ารัก

ความรักคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในส่วนหนึ่งของวอเร็น เขาได้นำมารวมกับปรัชญาการบริหารและการจัดการ เขาจะจ้างคนที่เขารักในสิ่งที่เขาทำเท่านั้น เพราะคนเหล่านั้นจะทำสิ่งต่างๆได้ดี วอเร็นไม่เคยดิสเครดิตพนักงานที่เคยทำผิดพลาด แต่กลับให้กำลังใจพวกเขาแทน และเขาได้ไว้ใจผู้บริหารของเขาว่าจะสามารถบริหารกิจการได้เป็นอย่างดี ให้อำนาจบริหารอย่างเต็มที่ วอเร็นพูดอย่างไม่มีวันจบสิ้นกับความภาคภูมิใจในทีมบริหารของเขา เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริหารที่ดีที่สุดและมีความสามารถจากทุกมุมโลกอยากมาทำงานกับเขา ความรักความนับถือเป็นก้าวแรกของถนนสู่ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ

เราสนุกกับการทำงานมากกว่าผลกำไรที่เราได้รับมาก นี่คือวิถีทางในการเรียนรู้การดำเนินชีวิตของผม

คนที่รักในงานจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจหรือในอาชีพของเขา เรื่องตลกก็คือ เมื่อความรักในการทำงาน เงินจะตามมาเสมอ ใครรักเงินมากกว่างานเขาจะทำงานด้วยความทุกข์และจบลงด้วยรายได้ที่น้อย วอเร็นมักจะพูดเสมอว่า เขารักสิ่งที่เขาทำมากขนาดที่เขาจะยอมจ่ายเงินเพื่อที่จะให้ได้ทำงานนี้  แต่เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายเพราะว่าเขาทำเงินได้เป็นตันในการทำสิ่งที่เขารัก

ถ้าคุณตีโฮลอินวันถูกหลุม คุณคงจะเล่นกอล์ฟจบโดยใช้เวลาไม่นาน

งานที่มีความท้าทายคือ ความน่าสนใจ ความมีศักดิ์ศรี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และดึงดูดคนที่มีความสามารถสูงๆ อย่างไรก็ตามการทำงานที่มีความท้าทายก็มีความเสี่ยง ในโลกของธุรกิจเมื่อมีความท้าทายก็ต้องมีการตัดสินใจและความผิดพลาดก็จะตามมา มันคือธรรมชาติของการตัดสินใจ และสิ่งนี้เองที่ทำให้น่าสนใจ มีแรงบันดาลใจและทำงานหนัก เขาต้องสร้างความท้าทายให้กับผู้บริหารเหล่านั้น และสร้างสภาพแวดล้อมที่ยอมให้เขาทำสิ่งที่ผิดพลาดได้ นั่นคือเส้นทางสู่ความสำเร็จ

เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม จงเริ่มทำในสิ่งที่คุณต้องการ หางานที่คุณรัก แล้วคุณจะกระโดดออกจากเตียงทุกเช้า ผมคิดว่าคุณคงจะเสียสติถ้าคุณยังจะทำงานที่ไม่ชอบด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นงานที่ทำให้ resume ของคุณดูดี มันไม่เหมือนกับการที่รอให้พร้อมก่อนแล้วค่อยมีเซ็กส์

การตื่นเช้าแล้วไปทำงานที่คุณไม่ชอบ ทำงานกับคนไม่น่าเคารพ มันทำให้คนหดหู่ใจ ถ้าคุณกลับบ้านแล้วเล่าให้ครอบครัวคุณฟัง ครอบครัวคุณจะไม่มีความสุข มันจะดีกว่ามากถ้าคุณหางานที่คุณรัก และไปทำงานด้วยรอยยิ้มทุกวัน และนำรอยยิ้มกลับมาให้กับคนในครอบครัวทุกวันหลังเลิกงาน จงจำไว้ว่าใครก็ตามที่รักในสิ่งที่เขาทำ คนนั้นจะสามารถก้าวขึ้นสู่แนวหน้าของสายงานนั้นได้อย่างไม่ยาก และจบด้วยการทำเงินมหาศาล จงทำในสิ่งที่คุณรักแล้วเงินจะตามมา ถ้ามันใช้ได้กับพวกเขามันก็ใช้ได้กับคุณ

เพื่อนของผมคนหนึ่งใช้เวลา 20 ปีในการหาผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ แต่โชคไม่ดีเมื่อเขาพบเธอคนนั้น เธอก็กำลังค้นหาชายที่สมบูรณ์แบบเช่นกัน

เพื่อนของวอเร็นไม่เข้าใจว่า การขายของให้กับคนอื่นนั้นแตกต่างจากการซื้อของที่คนอื่นมี เขาขายสินค้าให้กับเธอแต่เธอไม่จำเป็นต้องขายสินค้าให้กับเขา ในโลกของธุรกิจคุณต้องทำตัวเป็นที่ต้องการของคนอื่นและทำให้ผู้อื่นรู้ว่าคุณมีสินค้าอะไรที่จะขาย วอเร็นนำเสนอตัวเองในฐานะนักลงทุนและเป็นเจ้าของธุรกิจต่างๆ วอเร็นให้ความเชื่อมั่นกับเจ้าของกิจการว่าพวกเขาจะได้บ้านที่ดีและอบอุ่น เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้านายและลูกค้าของเรา ความสัมพันธ์ที่ดีนั้นต้องเริ่มจากการให้ใส่ใจบุคคลอื่น หาว่าเขาต้องการอะไร เพราะในที่สุดแล้วเราต้องขายอะไรบางอย่างให้กับเขา ใครก็ตามที่ไม่ใส่ใจหรือไม่สนใจก็จะต้องนั่งอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวในร้านอาหาร

นักวิเคราะห์ ที่ปรึกษา โบรกเกอร์ เรื่องหลอกลวงที่ควรหลีกเลี่ยง

อย่าถามช่างตัดผม ถ้าคุณคิดจะตัดผม

จะเกิดปัญหาถ้าคุณไปถามที่ปรึกษา เขาจะหาปัญหาทั้งๆ ที่คุณไม่มีปัญหาอะไรเลย วอเร็นพบว่าที่ปรึกษาการเงินที่ ปรึกษาเรื่องบริหาร ทนาย ช่างซ่อมรถ และอาชีพอื่นๆ บุคคลเหล่านี้ได้รับจ้างให้เข้ามาแก้ปัญหา มักจะหาปัญหามาให้คุณ ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่มีอะไรจะต้องแก้

โดยทั่วไปแล้วการพยากรณ์มักจะบอกเราเกี่ยวกับคู่พยากรณ์มากกว่าผลของการพยากรณ์

เป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่มักลืมไปคือ พวกเขาจะเป็นไปตามความต้องการของผู้จ่ายเงินให้เขาเสมอ ถ้าคุณจ่ายเงินเพื่อที่จะมองโลกในแง่ร้าย เขาก็จะมองโลกในแง่ร้าย เขาจะมองโลกในแง่ดีถ้าคุณต้องการแบบนั้น บุคคลเหล่านี้เป็นไปตามความต้องการของผู้จ่ายเงิน นักพยากรณ์ตลาดหุ้นไม่ได้เป็นผู้วิเศษที่จะมองเห็นอนาคต พวกเขาก็ต้องใช้เงินเช่นกัน เขาจึงต้องหาเหตุผลต่างๆ นานา เพื่อปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนของคุณ เขาทำเงินจากการเคลื่อนย้ายเงินของคุณไปมา ดังนั้นนักพยากรณ์ในวอลสตรีทหรือเรียกอีกชื่อว่านักวิเคราะห์คือเขาจะหาเหตุผลเพื่อที่จะให้คุณทำในสิ่งที่เขาต้องการคือการย้ายเงินจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง

โผลไม่สามารถมาทดแทนการใช้ปัญญาได้

มักเป็นความสบายใจที่คุณจะลงทุนตามชุมชน แต่เมื่อไหร่ฝูงชนนั้นหนีออกจากงานปาร์ตี้ นั่นเพราะว่าไม่มีดาวใดที่จะอยู่ข้างฟ้า โดยทั่วไปแล้วคุณมักจะขาดทุน นั่นหมายความว่าคุณต้องรับความเสี่ยงจำนวนมากสำหรับผลตอบแทนจำนวนน้อยที่เหลืออยู่ ถ้าคุณคิดอย่างนักลงทุน คิดอย่างวอเร็น คุณต้องหาหุ้นที่ยังไม่ดังเพราะว่าเมื่อคุณหาหุ้นดีที่ยังไม่ดัง คุณก็สามารถซื้อมันได้ในราคาถูกเท่ากับว่าความเสี่ยงในการขาดทุนก็จะน้อยและโอกาสทำกำไรก็จะมากขึ้น

โรงเรียนธุรกิจนั้นจะสอนในสิ่งที่ยาก สอนเรื่องซับซ้อนมากกว่าความเรียบง่าย แต่ความเรียบง่ายนั้นได้ผลมากกว่า

บิลลี่ อ็อกแคม ได้นำเสนอแนวคิดที่เรียบง่ายที่สุดคือคำอธิบายที่ดีที่สุด แต่ปัญหาของแนวคิดนี้ ก็คือในเวลานั้นเขาชอบความลึกลับซับซ้อน เพื่อนำเหล่าบรรดาสาวกมาประกอบพิธีต่างๆ กับเขา ถ้าคุณเข้าใจในกระบวนการลงทุนคุณก็ไม่จำเป็นต้องมีที่ปรึกษา นักวิเคราะห์หุ้น แค่หาธุรกิจชั้นยอดและซื้อมันในราคาแสนถูกจากนั้นก็ถือมันไว้ 20 ปี แต่ถ้าคุณหาที่ปรึกษาพวกเขาจะแนะนำการลงทุนระยะสั้น ซึ่งมันจะไม่ทำให้คุณร่ำรวย

มันดูเหมือนจะเป็นเรื่องประหลาดที่มนุษย์ชอบทำให้เรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก

ใครบ้างอยากจะถูกคิดเงินแพงๆ สำหรับทำให้คุณเข้าใจเรื่องที่ว่ายากนั้นเป็นเรื่องง่าย ยิ่งซับซ้อนเท่าใดคุณก็ยิ่งต้องการผู้เชี่ยวชาญมาช่วยแก้ปัญหามากเท่านั้น ที่วอลสตรีทก็คือธุรกิจแห่งการขายผู้เชี่ยวชาญในการลงทุน เพราะเขาจะเสนอการลงทุนที่มันซับซ้อนเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ พวกเขาจะทำให้คุณเชื่อว่าเขาจะทำให้คุณรวยและจะทำให้คุณกลับมาปรึกษาเขาอยู่เรื่อยๆ เขาแค่อยากได้เงินของคุณเพราะว่าเกมที่จะทำให้เขาได้เงินก็คือทำให้คุณต้องลงทุน อย่างที่ วู๊ดดี้ อัลเลน พูดไว้ว่า “โบรกเกอร์คือพวกที่เอาเงินของคนอื่นไปลงทุนจนกระทั่งเงินนั้นหายไปหมด”

จะต้องเสียสละเป็นอย่างมากที่จะกล้าแนะนำให้ถืออะไรบางอย่างไว้ 30 ปี การเสียสละแบบนี้นั้นหาได้ยากแม้กระทั่งในวัด ดังนั้นจงอยู่ให้ห่างจากห้องค้าหุ้น

        โบรกเกอร์อาจจะต้องอดตายถ้าเขานำกลยุทธ์ของวอเร็นมาใช้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อแต่วิธีนี้ไม่สร้างความมั่นคงให้กับโบรกเกอร์ พวกเขาทำเงินทั้งหมดจากค่านายหน้า จากการซื้อขายหุ้น ถ้าโบรกเกอร์มีไอเดียมาเสนอมากกว่าปีละครั้ง คุณอาจจะกำลังถูกหลอกอยู่ก็ได้ ถ้าเขาอยากให้คุณขายหุ้นที่เพิ่งซื้อมาเมื่อเดือนที่แล้วเพราะว่าพื้นฐานนั้นเปลี่ยนไป คำแนะนำเหล่านี้อาจจะเป็นการหลอกลวงก็ได้

ทำไมถึงไม่ควรกระจายความเสี่ยง

ผมไม่สามารถที่จะหมกมุ่นกับหุ้น 50 หรือ 75 ตัวได้ แบบนั้นคือการลงทุนแบบเรือโนอาห์ คุณจะจบลงด้วยการเป็นสวนสัตว์ ผมชอบที่จะใส่เงินจำนวนมากกับหุ้นน้อยตัว

ถ้าคุณลงหุ้น 50 ตัว ความสนใจและความสามารถที่จะติดตามความเป็นมาของธุรกิจนั้นน้อยมาก แน่นอนว่าคุณจะจบลงด้วยการเป็นสวนสัตว์ที่ไม่ได้รับการดูแล วอเร็นจะใส่เงินจำนวนมากในการลงทุนแต่ละครั้ง เพราะโอกาสการลงทุนที่ดีนั้นหายากและมีน้อย แค่คุณตัดสินใจลงทุนถูกต้องเพียงไม่กี่ครั้งคุณก็สามารถรวยได้ แต่ถ้าคนตัดสินใจเป็นล้านครั้งต่อปี คุณอาจกำลังทำลายตัวเองอยู่ก็ได้

การกระจายความเสี่ยงคือการป้องกันคุณจากความไม่รู้ มันจะไม่เข้าท่าเลยสำหรับคนที่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

ถ้าคุณไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณทำ ก็สมควรที่จะกระจายความเสี่ยง ถ้าที่ปรึกษาของคุณแนะนำให้กระจายความเสี่ยง เขากำลังบอกคุณว่า เขาไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรและเขาต้องการที่จะป้องกันคุณจากความไม่รู้นั้น วอเร็นรู้ว่าเขากำลังทำอะไร เขาจึงชอบลงทุนแต่หุ้นสวยๆ ที่มีไม่กี่ตัวอยู่ในตลาดวอลสตรีท

วอลสตรีททำเงินจากการเคลื่อนไหวแต่คุณจะทำเงินได้ด้วยการไม่เคลื่อนไหว

วิธีควบคุมเกมของวอลสตรีทคือควบคุมสินทรัพย์ของคุณ และค่อยๆ ดูดค่านายหน้าของคุณ พวกเขาจะพยายามให้คนซื้อขายหุ้นจากข่าวดีและข่าวร้าย นักวิเคราะห์จะแนะนำให้คุณสลับการลงทุนไปมา เขาจะแนะนำให้ซื้อขายเก็งกำไรอยู่ตลอด ไม่ว่าคุณจะเคลื่อนไหวไปทางไหนเขาก็ยินดีที่จะได้รับเงินจากคุณ

ถ้าคุณต้องการจะทำเงินในตลาดหุ้น คุณต้องซื้อบริษัทที่ดีในราคาที่เหมาะสมหรือต่ำกว่านั้น และถือมันไว้ยาวๆ การถือยาวคือการสะสมกำไรให้มากขึ้นเรื่อยๆ นี่คือวิธีที่ทำให้ตั้งแต่ บิล เกตต์ ไปจนถึง วอเร็น บัฟเฟตต์ รวยติดอันดับต้นๆของโลก

ทำไมจึงไม่ลงทุนในบริษัทที่คุณชอบจริงๆ อย่างที่ แม เวสต์ พูดไว้ว่า “มีสิ่งดีมากเกินไปถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์”

วอเร็นลงทุนในหุ้นน้อยตัว และยังต้องการซื้อหุ้นเพิ่มตราบใดที่ปัจจัยพื้นฐานยังดีและราคาหุ้นยังไม่แพง บางครั้งเขาต้องใช้เวลาหลายปีในการซื้อหุ้นจำนวนมาก นี่เป็นกลยุทธ์ตรงข้ามกับการกระจายความเสี่ยง วอเร็นเชื่อว่าถ้าคุณกระจายความเสี่ยง คุณจะจบลงด้วยพอร์ตโฟลิโอสัตว์ประหลาดที่คุณไม่มีทางจะเข้าใจว่าบริษัทจำนวนมากที่คุณลงทุนไปมีพื้นฐานเป็นอย่างไร แต่วอเร็นจะพิจารณาอย่างละเอียดเกี่ยวกับเงินที่เขาใส่ลงไป และเมื่อใส่ไปแล้วเขาจะจับตาดูอย่างไม่กระพริบตา

การกระจายความเสี่ยงจำเป็นก็ต่อเมื่อนักลงทุนไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไร

ถ้าที่ปรึกษากำลังขายไอเดียเกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยง นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรดีกับการลงทุนของคุณ เพราะเขาต้องการปกป้องคุณจากความไม่รู้ และคุณเองก็ยังไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร การกระจายความเสี่ยงคือการปกป้องคนจากการสูญเสียและให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในระยะยาว แต่วิธีนี้จะไม่ทำให้คุณรวยขึ้น เพราะกลยุทธ์ที่มีหุ้นที่ชนะและหุ้นที่แพ้รวมกันอยู่มันจะหักลบกลบหนี้กันเอง แต่วิธีนี้ก็ไม่ทำให้คุณล่มจมด้วยเช่นกัน

คุณแค่ทำสิ่งที่ถูกเพียงไม่กี่ครั้งในชีวิตก็พอ ตราบใดที่คุณไม่ทำสิ่งที่ผิดจนมากเกินไป

การที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตขอแค่คุณทำในสิ่งที่ถูกเพียงไม่กี่ครั้งก็พอแล้ว ทางเดียวที่จะทำให้ชีวิตคุณล่มจมก็คือการตัดสินใจผิดหลายๆครั้งอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการลงทุนเพียงคุณตัดสินใจลงทุนถูกต้องเพียงไม่กี่ครั้ง คุณก็สามารถสร้างความมั่นคงและร่ำรวยได้ แต่คุณก็มีโอกาสผิดด้วยเช่นกัน ถ้าผิดก็อาจจะสูญเสียกำไรจากการตัดสินใจที่ถูกต้อง

ความมีวินัยความรอบคอบและความอดทน

ถ้าคุณปล่อยให้ตัวเองไร้วินัยในสิ่งเล็กๆน้อยๆ คุณก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นคนไร้วินัยในเรื่องใหญ่ๆเช่นกัน

วอเร็นพบว่าผู้คนมักมีข้ออ้างที่จะไม่ทำตามวินัยการลงทุนที่ดีเมื่อเขาได้ลงทุนในจำนวนเงินไม่มากและพฤติกรรมแบบนี้จะนำไปสู่การไร้วินัย วอเร็นเป็นคนที่มีวินัยอย่างสูง ครั้งหนึ่งเขาได้ปฏิเสธที่จะพนันเงิน 2 เหรียญในการตีกอล์ฟเพราะเขาคิดว่าโอกาสที่เขาจะชนะนั้นมีน้อย ในโลกของวอเร็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นั้นสำคัญเสมอ

ไม่มีอะไรเหมือนการเขียนมันบังคับให้คุณคิดและจะทำให้สติปัญญาเฉียบแหลม

ถ้าคุณยังไม่สามารถเขียนเป็นตัวหนังสือได้นั่นหมายความว่าคุณยังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมวอเร็น จึงเขียนจดหมายให้ผู้ถือหุ้นทุกปี การบริหารสมองช่วยในการเพิ่มความสามารถในการคิดวิธีที่จะสร้างเงินล้าน การเขียนอะไรก็ตามจะช่วยให้คุณคิดโดยทั่วไปแล้ววอเร็นจะเริ่มเขียนรายงานหลังจากวันปีใหม่ เขาจะเขียนมันด้วยลายมือลงบนกระดาษ จากนั้นจะส่งไปให้บรรณาธิการใหญ่ของนิตยสารฟอร์จูน แต่ถึงแม้จะเป็นอัจฉริยะก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากบรรณาธิการ

ยิ่งความรอบคอบของผู้อื่นในเรื่องต่างๆ มีน้อยเท่าใด เรายิ่งควรมีความรอบคอบในเรื่องของเรามากขึ้นเท่านั้น

นี่คือคู่มือการลงทุนในช่วงตลาดขาขึ้น ในกรณีนี้ชุมชนการลงทุนจะขาดความรอบคอบ การพิจารณาว่าเขาควรจะจ่ายราคาเท่าไหร่ หมายความว่าพวกเขาต้องการจะซื้อไม่ว่าหุ้นจะขายที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งวอเร็นจะเพิ่มความรอบคอบเมื่อเขาจะทำการซื้อ ความรอบคอบจะหยุดเขา เมื่อราคาที่สูงเกินกว่ามูลค่าของบริษัทในระยะยาว ความรอบคอบในการตัดสินใจสามารถช่วยคุณจากความผิดพลาดและจะทำให้คุณรวยความไม่รอบคอบจะเป็นตัวเปิดประตูสู่ความยากจน เพราะฉะนั้นคุณไม่มีทางรวยถ้ายังขาดความรอบคอบ

ผมไม่เคยเหวี่ยงไม้ตีลูกบอลที่ยังอยู่ในมือคนขว้าง

วอเร็นเป็นแฟนตัวยงของกีฬาเบสบอล ซึ่งเขาได้อ่านหนังสือของยอดนักเบสบอลที่อธิบายว่า การที่จะเป็นนักตีเบสบอลที่ดีคุณจะต้องไม่ตีลูกเบสบอลที่ขว้างมาไม่สวย และมองหาลูกที่ขว้างออกมาสวยๆ วอเร็นนำแนวคิดนี้มาใช้กับการลงทุน โดยบอกว่านักลงทุนที่ดีคุณจะต้องรอโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้น เขานั้นมีเวลาทั้งวันที่จะยืนรอลูกบอลการลงทุนสวยๆมาให้เขาตี

ด้วยเหตุนี้วอเร็นจึงไม่เคยซื้อบริษัทที่เขาไม่สามารถประเมินในอนาคตได้ เขาชอบธุรกิจชั้นยอดที่สามารถคาดการณ์อนาคตได้ ซึ่งจะลดราคาในช่วงที่ผู้บริหารกำลังแก้ไขข้อผิดพลาด หรือช่วงที่อุตสาหกรรมนั้นกำลังถดถอย นี่คือเหตุผลหนึ่งที่เขามักจะหลีกเลี่ยงจากบริษัทที่ไม่มีประวัติในการทำกำไรมาก่อน ถ้าคุณซื้อหุ้นของบริษัทใหม่ที่ไม่เคยทำกำไรมาก่อน คุณกำลังซื้อความหวังที่ยังไม่ปรากฏตัวออกมา บริษัทแบบนี้เราจะไม่สามารถประเมินมูลค่าของมันได้ ถ้ากลยุทธ์การลงทุนของคุณอยู่บนความหวังของรายได้ในอนาคต ก็มีโอกาสสูงที่คุณกำลังจะตีลูกบอลแห่งปัญหา

ลองจินตนาการดูว่าคุณมีรถ และรถคันนี้คือรถคันเดียวที่คุณจะมีได้ตลอดชีวิตของคุณ แน่นอนว่าคุณจะดูแลมันเป็นอย่างดี ทีนี้ลองพิจารณาว่าคุณมีเพียงแค่ 1 สมองกับ 1 ร่างกาย คุณจะต้องเตรียมมันให้พร้อมตลอดชีวิต คุณจะต้องดูแลมันให้ดี และต้องเพิ่มขีดจำกัดความสามารถของสมองตลอดเวลา เพราะว่าสินทรัพย์หลักของคุณคือตัวคุณเองดังนั้นจงดูแลสุขภาพให้ดีและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

วอเร็นมองว่าร่างกายและสมองเป็นสินทรัพย์ทางธุรกิจชนิดหนึ่ง คุณอาจจะใช้ชีวิตของคุณด้วยการขายสมองและแรงงานโดยตรงให้กับประชาชนทั่วไป หรือจะขายสมองและแรงงานทางอ้อมโดยผ่านการทำงานให้กับบริษัทต่างๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วตัวคุณก็คือเครื่องจักรทางธุรกิจที่มีความสามารถในการทำเงินอย่างมหาศาล นี่คือสิ่งเดียวที่คุณจะต้องทำร่างกายและสมองของคุณ ให้เป็นอย่างดี คุณต้องดูแลมันทำให้มันแข็งแรง และศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา ถึงตอนนี้คุณจะสามารถเลือกได้ว่าจะพัฒนาตัวเองให้เป็นเครื่องจักรทำเงินหรือจะใช้ชีวิตอย่างไร้คุณค่าและทิ้งโอกาสทั้งหมดไป

ผมซื้อชุดสูทราคาแพงมาใส่ แต่พอใส่แล้วผมดูไม่ได้เรื่องเลย

วอเร็นเป็นคนประหยัด ประหยัดมาตลอดและจะประหยัดตลอดไป ที่เขาประหยัดเพราะเขารู้ถึงมูลค่าในอนาคตจากดอกเบี้ยทบต้นของเงินในปัจจุบัน วอเร็นมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องของการประหยัดด้วยการขับรถคันเก่าๆ ซึ่งเป็นรถที่เขาใช้ตั้งแต่เริ่มอาชีพนักบริหารเงิน จนถึงวันที่เขาทำเงินได้ดอกเบี้ยอัตราทบต้น 20% ทำให้วอเร็นคิดว่ามันแพงไปหน่อยสำหรับการซื้อรถเช่นเดียวกับเขาไม่เคยซื้อสูตรราคาแพงจนกระทั่งอายุ 60 และมูลค่าในอนาคตของเงินที่เขาจ่ายสำหรับชุดสูท ก็ไม่ได้มากมายจนทำให้เขานอนไม่หลับ

ในการมองหาบริษัทที่จะซื้อ เราได้ประยุกต์ใช้แนวความคิดเดียวกับที่คนคนหนึ่งมองหาคู่ชีวิต คือจะต้องกระตือรือร้น น่าสนใจ และใจกว้าง แต่ที่แตกต่างคือเราจะไม่ทำด้วยความรีบร้อน

คนกลุ่มหนึ่งมองว่าไม่มีวันที่จะหาสิ่งสิ่งนี้พบ แต่คนอีกกลุ่มมองว่าอาจจะพบได้ในบางโอกาส วอเร็นมักจะมองหาสิ่งที่ว่านั้นซึ่งก็คือ โอกาสในการลงทุน ซึ่งเขารู้ว่าจะปรากฏตัวออกมาในสถานการณ์ที่เหมาะสม แล้วอะไรคือสถานการณ์ที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วหมายถึง ตลาดหมี การถดถอยของอุตสาหกรรม ปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นโดยไม่ทำลายพื้นฐานของบริษัท และ Panic Sale สิ่งเหล่านี้ทำให้หุ้นของบริษัทที่ดีๆบางบริษัทถูกขายด้วยราคาที่ต่ำอย่างน่าประหลาดใจ สิ่งเดียวที่วารินทำก็คือ รออย่างอดทนรอให้เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้น เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน แต่จะเกิดขึ้นบ้าง และทำให้วอเร็นกลายเป็นบุคคลที่รวยอันดับ 2 ของโลก

ข้อควรระวัง : ความโลภทำให้โง่

เมื่อนิสัยที่ดีรวมเข้ากับสติปัญญาที่ดีคุณจะได้พฤติกรรมที่มีเหตุผล

วอเร็นมักพูดเสมอว่า จงโลภเมื่อคนอื่นกำลังกลัวและจงกลัวเมื่อคนอื่นกำลังโลภ ปรัชญาการลงทุนนี้จะทำให้คุณโฟกัสในกิจกรรมที่มีปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่ดีในระยะยาว พฤติกรรมที่มีเหตุผลจะกลายเป็นตัวบอกคุณว่าเมื่อไหร่และที่ไหนที่คุณจะเหนี่ยวไกปืนคุณจะเหนี่ยวไกเมื่อผู้คนกำลังตื่นตัวและทิ้งหุ้นของพวกเขาและจะไม่เหนียวใครถ้าทุกคนกำลังโล่งและแย่งกันซื้อหุ้นบนยอดดอย

มี 2 ครั้งในชีวิตที่วอเร็นหยุดซื้อหุ้นโดยสิ้นเชิงเพราะตลาดหุ้นนั้นสูงเกินไปครั้งแรกในช่วงปี 1960 และครั้งที่ 2 ในช่วงปี 1990 ทั้ง 2 ครั้งราคาหุ้นตกอย่างรุนแรงแต่วอเร็นไม่เจ็บตัว นอกจากนั้น ยังมีเงินสดเก็บไว้จำนวนมากทำให้เขาสามารถได้ราคาหุ้นที่แสนถูกที่มีอยู่ในตลาดมากมาย

ความจริงที่ว่าคนนั้นเต็มไปด้วย ความโลภ ความกลัวและความโง่เขลา เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ แต่สิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้คือ สิ่งไหนจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลัง

วอเร็นรู้ว่านักลงทุนจะตื่นเต้นไปกับราคาหุ้นที่กำลังพุ่งสูงขึ้น และเขายังรู้ว่า นักลงทุนจะตื่นกลัวและขายหุ้นต่ำๆ อย่างไร้เหตุผล แต่สิ่งที่วอเร็นไม่รู้ก็คือมันจะเกิดขึ้นที่ไหน เกิดนานเท่าใด และเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เขาจะเตรียมพร้อมที่จะหาความได้เปรียบและความกลัวพามาหาเขา และปล่อยให้ความกลัวและความโง่สร้างโอกาสให้คุณ นี่คือแนวทางของนักลงทุนผู้ชาญฉลาด

หุ้นไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของมัน

คนมักจะทำสิ่งต่างๆลาวกับสิ่งนั้นมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา รถยนต์ หรือว่าหุ้น อารมณ์จะเข้ามาแทนที่ความมีเหตุผล นี่คือสิ่งที่ไม่ดีสำหรับการลงทุน เมื่อถึงเวลาต้องขายหุ้น คุณจะไม่ตะขิดตะขวงใจเพราะว่าคุณ “รัก” หุ้นตัวนั้นอยู่ เช่นเดียวกัน เมื่อราคาหุ้นตกก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปโกรธมัน เพราะมันไม่รู้ว่าคุณเป็นเจ้าของมันอยู่

เมื่อความไม่รู้รวมเข้ากับเงินกู้คุณจะได้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจ

ความไม่รู้จะปิดตาคุณจากความโง่เขลา การกู้เงินจะทำให้คุณมองไม่เห็นความไม่รู้ของคุณ จนกระทั่งมันไปถึงจุดสุดยอดแห่งความโง่ คือสาเหตุที่ทำให้คุณเสียเงินจากการเป็นหนี้ธนาคาร ตัวอย่างการกู้เงินที่โง่เขลา คือการกู้เงินของบริษัทลงทุนแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครรู้จักคำว่าการลงทุนระยะยาว พวกเขากู้เงิน 1 แสนล้านเหรียญเพื่อลงทุนในอนุพันธ์ ในท้ายที่สุดเมื่อเห็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันมาถึง

ไม่เพียงแค่พวกเขาเสียเงินลงทุนไปทั้งหมด แต่พวกเขาเกิดจะทำให้ระบบการเงินพังทั้งระบบ เมื่อคุณลงทุนด้วยการกู้เงิน ความผิดพลาดอาจจะเกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นมันจะไม่มีทางจบลงอย่างสวยงาม

ในบรรดาบาป 7 ประการ ความอิจฉาคือสิ่งที่แย่ที่สุด เพราะว่าถ้าคุณอิจฉา คุณจะไม่มีวันรู้สึกดี คุณจะรู้สึกแย่ตลอดเวลา ส่วนความอยากนั้นบางคนบางครั้งผมก็มีความสุขกับมัน แต่ระวังอย่าให้มันกลายเป็นความโลภ

ความละโมบนั้นเป็นสิ่งที่ดีถ้ามันเป็นทาสรับใช้เรา และระวังอย่าให้มันเป็นนายเรา คุณจะไม่มีทางรวยถ้าคุณไม่โลภซะบ้าง และคุณจะไม่มีวันมีความสุขถ้าคุณมีมากจนเกินไป ความโลภจะนำไปสู่ความอิจฉา ความอิจฉาจะนำไปสู่ความไม่รู้จักพอเกมของการลงทุนก็คือ การลงทุนเพื่อจะหาเงินมากกว่าที่จะลงทุนเพราะอิจฉาคนอื่นที่มีเงินก้อนโต คนรวยที่มีความสุขมักจะรักการทำธุรกิจและไม่ค่อยสนใจว่าเศรษฐีคนอื่นจะมีเงินเท่าไหร่

วอเร็นคือตัวแทนของความอยาก เขาอยากทานสเต็กและแฮมเบอร์เกอร์ซึ่งทำให้เขามีรอยยิ้มบนใบหน้าแต่อาหารพวกนี้ทำให้ผู้ถือหุ้นเป็นกังวลอย่างยิ่งเพราะเขาต้องการวอเร็นมีชีวิตอยู่ได้นานที่สุด แต่วอเร็นกลับพูดว่าการที่มีอายุยืนยาวด้วยการเปลี่ยนไปกินอาหารสุขภาพนั้น เมื่อเทียบกับความสุขที่เขาได้รับจากการกินอาหารขยะแล้วมันไม่คุ้มกันเลย

เป็นที่ชัดเจนว่าเราพยายามที่จะกลัวเมื่อคนอื่นกำลังโลภ และพยายามที่จะโลกเมื่อคนอื่นๆ กำลังกลัวเท่านั้น

จำได้ว่าเมื่อราคาพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้ามันคือเวลาที่บอกลา แต่เมื่อราคาตก มันคือเวลาที่จะโทรหาโบรกเกอร์ ในช่วงตลาดกระทิงผู้คนส่วนใหญ่จะโลภ และผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้นไปอย่างมาก ซึ่งจะยิ่งดึงดูดให้คนเข้ามาไล่ล่าราคา ในช่วงเวลาแบบนี้วอเร็นจะระวังตัวและอยู่ห่างตลาดหุ้น ในช่วงตลาดหมี นักลงทุนจะเต็มไปด้วยความกลัวไม่มีใครอยากได้หุ้น พวกเขาจะขายหุ้นโดยไม่สนใจปัจจัยพื้นฐาน ในช่วงเวลาแบบนี้วอเร็นจะกระโดดเข้าสู่ตลาด และซื้อกิจการที่เขาฝันอยากจะเป็นเจ้าของ จงกลัวเมื่อคนอื่นกำลังโลภ จงโลกเมื่อคนอื่นกำลังกลัว

เมื่อไรควรจะขาย และเมื่อไรควรจะหนี

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องทำเมื่อคุณพบว่าตัวเองอยู่ในหลุมก็คือให้หยุดขุดทันที

ถ้าคุณผมว่าตัวเองกำลังติดอยู่ในหุ้นเยอะแย่สิ่งที่แย่ที่สุดคือทุ่มเงินเพิ่มลงไปในหุ้นตัวนั้นอีกแต่แน่นอนว่ามันเจ็บปวดที่ต้องถอนตัวในขณะที่ขาดทุน วอเร็นลงทุนอย่างหนักในอุตสาหกรรมอลูมิเนียม มันคือความผิดพลาดและทันทีที่เขารู้ตัวว่าพลาด เขาหยุดขุดหลุมฝังตัวเองและกระโดดออกจากหลุมทันที จงมีความกล้าที่จะหยุดตัวเองจากข้อผิดพลาดและต้องกล้าก่อนที่คุณจะถังแตก

ถ้าสำเร็จแล้ว ก็หยุดพยายามได้

วอเร็นมักจะมองหาธุรกิจชั้นเลิศที่จะซื้อและเมื่อเขาซื้อมันเค้าจะถือมันไว้นานนาน มองราคาหุ้นค่อยค่อยเติบโตไปพร้อมกับกำไรของบริษัท เมื่อคุณได้ลงทุนในบริษัทชั้นเลิศมันจะดีกว่ามากที่จะอยู่นิ่งๆ แทนที่จะขายหุ้นออกไปเพื่อแลกกับกำไรนิดๆ หน่อยๆ และไปมองหาซื้อหุ้นตัวใหม่มาทดแทนเป็นสิ่งที่สำคัญที่คุณจะต้องเรียนรู้ว่าธุรกิจฉันนั้นเป็นอย่างไร แต่ถ้าคุณพบตัวเองติดอยู่กับธุรกิจโดยทั่วไปที่ไม่มีความได้เปรียบทางธุรกิจคุณก็ควรจะทำตามคำแนะนำ เบอร์นาร์ด บารูซ เมื่อเขาถูกถามว่าทำไมถึงรวยเค้าจะตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ว่า “ผมมักจะขายเร็วไปเสมอ”

ผมซื้อหุ้นเมื่อตัวเลมมิ่งกำลังมุ่งหน้าไปทางอื่น

วอเร็นรู้ว่าเวลาที่เหมาะสมในการซื้อหุ้นคือ เมื่อคนอื่นๆกำลังขายมัน ไม่ใช่ซื้อในช่วงที่คนอื่นกำลังแย่งกันซื้อ ทุกครั้งที่เขาซื้อนั้น เขาจะซื้อเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างกำลังมืดมนต์เค้าทำแบบนั้นได้ก็เพราะว่าเค้าศึกษาโลกของธุรกิจมาเป็นอย่างดีและรู้ว่าธุรกิจไหนจะอยู่รอดจากภัยพิบัติ เขาจะซื้อมันที่ก้นเหวและมองมันพุ้งกลับมาเมื่อปัญหาต่างๆได้ถูกแก้ไขไปแล้ว

คนส่วนใหญ่จะสนใจในหุ้นเมื่อสังคมหุ้นกำลังสนใจมัน แต่เวลาที่คุณควรจะสนใจหุ้นคือเมื่อไม่มีใครสนใจมัน คุณจะไม่สามารถได้ผลตอบแทนที่ดีถ้าซื้อหุ้นในช่วงที่หุ้นกำลังร้อน

นักลงทุนที่ฉลาดจะหลีกเลี่ยงหุ้นร้อนและความผิดปกติ หุ้นร้อนจะทำให้ราคามันสูงเกินไป ถ้าคุณต้องการเป็นเจ้าของบริษัท คุณต้องมองหาบริษัทที่ไม่มีใครสนใจ ทำให้ได้ ราคา ที่เหมาะสม และมีโอกาสสูงที่ราคาจะขึ้น วอเร็นจะกลับตามองบริษัทที่เขาสนใจ ธุรกิจที่ดีเยี่ยม เขาจะซื้อมันทันทีถ้าพบว่าราคามีความเหมาะสม วอเร็นจะซื้อหุ้นในช่วงตลาดหมีหรือในช่วงเวลาที่บริษัทเหล่านี้ไม่เป็นที่นิยมของสังคมหุ้นทั้งสิ้น

เราจะไม่ลงทุนในบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ การเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ดีทั้งในโลกของการลงทุนและในโลกของชีวิตคู่

วอเร็นพบว่าพื้นฐานของธุรกิจจะไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าใครเป็นผู้บริหารก็ตาม ธุรกิจที่สุดยอดจะสร้างผลลัพธ์ดีเสมอ ตลอดเวลา 100 ปีผ่านมา Coca-Cola เปลี่ยนผู้บริหารไปแล้วนับไม่ถ้วน บางคนก็ดีบางคนก็แย่ แต่ก็ยังเป็นบริษัทที่แสนพิเศษ แต่สำหรับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ สายการบิน หรือเทคโนโลยี ธุรกิจเหล่านี้ประสบปัญหามาตลอดไม่ว่าใครจะเป็นผู้บริหารมัน เมื่อคุณต้องลงทุนต้องเลือกบริษัทชั้นเลิศ และหลีกให้ห่างจากบริษัทยอดแย่ถึงแม้ผู้บริหารจะอัจฉริยะก็ตาม

ความเสี่ยงมาจากการที่ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

ถ้าคุณไม่สามารถเสาะหาบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีในระยะยาว คุณก็กำลังเล่นอยู่กับความเสี่ยง คุณจะไม่มีทางรู้ว่าคุณจ่ายแพงเกินไป การเข้าใจว่าคุณกำลังลงทุนอะไรคือหนทางที่จะกำจัดความเสี่ยงได้ วอเร็นพูดไว้ว่า “ผมไม่เคยซื้ออะไรที่ผมไม่สามารถตอบคำถามของตัวเองที่ว่า ทำไมถึงซื้อ” ถ้าคุณสามารถตอบคำถามได้คุณก็จะทำเงินได้มหาศาล เคล็ดลับไม่ได้อยู่ที่การเลือกหุ้นถูกตัวแต่อยู่ที่ว่าคุณได้หาคำตอบที่เหมาะสมกับคำถามแล้วหรือยัง

วันที่เหมาะสำหรับการซื้อหุ้น IPO ก็คือวันที่ไม่มีตัว y จะกดอยู่

วอเร็นพูดถึงการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้กับประชาชน IPO เขามองว่าผู้เสนอขายจะขายในราคาเต็มมูลค่าแล้วเสมอ มันไม่มีโอกาสจะได้ส่วนลดราคา วอเร็นจึงมักจะอยู่ห่างจากหุ้น IPO ตั้งแต่เขาเริ่มชีวิตการลงทุน วอเร็นจะรอให้หุ้นได้ซื้อขายในตลาดแล้วสักพักนึง และด้วยการมองระยะสั้นของตลาดหุ้น จึงมีโอกาสประเมินราคาผิดไป

เราเชื่อเสมอว่าความตรงไปตรงมานั้นจะเป็นประโยชน์กับเรา เช่นเดียวกับผู้บริหารหรือซีอีโอที่ไม่ตรงไปตรงมาในที่สาธารณะ ก็มักจะไม่ตรงไปตรงมากับตัวเองด้วยเช่นกัน

ซีอีโอที่ดีจะยอมรับความผิดพลาดที่เขาทำและเรียนรู้มัน แต่ถ้าซีอีโอที่พยายามโทษคนอื่นในความผิดพลาดของเขา คือเขากำลังโกหกตัวเองอยู่ และเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อผู้ถือหุ้น และมักจะเกิดขึ้นกับเรื่องของบัญชีเพื่อต้องการปกปิดตัวเลขหรือตบแต่งบัญชีทั้งหมด และเมื่อสุดท้ายเขาก็เข้าคุก และที่เศร้าไปกว่านั้นคือตัวเลขบัญชีที่เขาตบแต่งจะไม่ถูกพบจนกว่ามันจะกินเงินของนักลงทุนผู้ถือหุ้นเงินบำนาญของพนักงานไปจนหมด

ถ้ามันไม่มีค่าพอที่จะทำ ก็ไม่มีทางจะทำมันได้ดี

หลายคนทำงานหนักในธุรกิจที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ไม่ดี หมายความว่าเรื่องการทำเงินก็ไม่ดีตามไปด้วย ถ้าคุณรู้ว่าคุณกำลังทำงานอยู่บนเรือธุรกิจพื้นฐานที่ไม่ดี คุณก็ควรสละเรือและหาเรือลำใหม่ที่มุ่งหน้าสู่ทะเลแห่งความมั่นคง

นี่คือประสบการณ์ตรงของวอเร็นเกี่ยวกับธุรกิจสิ่งทอ ไม่ว่าธุรกิจจะหานวัตกรรมใหม่ๆมากมายแค่ไหนก็ตาม หรือเพิ่มเงินลงทุน ผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิม เพราะคู่แข่งจะนำสินค้าเข้ามาจากต่างประเทศที่ต้นทุนต่ำกว่า

การได้ทำงานอยู่กับบริษัทที่มีประวัติการบริหารงานที่ดีนั้น ก็เหมือนกับการได้ขึ้นเรือแห่งธุรกิจชั้นยอด ซึ่งนั่นสำคัญกว่าประสิทธิภาพในการพายของคุณมาก แต่ถ้าคุณพบว่าตัวเองอยู่ในเรือที่กำลังรั่ว การหาทางเปลี่ยนเรือนั้นเข้าท่ากว่าการหาทางซ่อมเรือมาก

เมื่อคุณจบจากโรงเรียนคุณควรจะเลือกทำงานกับบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจชั้นยอด บริษัทชั้นยอดจะทำให้คุณดูดีเสมอและยังจ่ายเงินให้คุณมากกว่าด้วย ถ้าคุณทำงานอยู่กับบริษัทชั้นยอดแล้วจงคิดให้ดีก่อนจะลาออก งานใหม่ที่ดูเหมือนว่าจะดีกว่านั้น อาจเป็นเรือที่กำลังรั่วอยู่ก็ได้ ไม่ว่าคุณพยายามพายแค่ไหนเรือที่รั่วก็ไม่ไปไหนอยู่ดี

ความผิดพลาดที่ต้องระวัง

เราไม่เคยมองย้อนกลับไปในอดีต เราคิดว่ามีเรื่องต่างๆมากมายให้เรามองไปข้างหน้ามันจึงไม่เข้าท่าเลยที่จะคิดว่า เราได้ทำอะไรลงไปในอดีต เพราะมันจะไม่ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงไป และเพราะว่าคุณสามารถใช้ชีวิตด้วยการเดินไปข้างหน้าเท่านั้น

วอเร็นไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำในชีวิต ในโลกการลงทุนมักมีอะไรที่ผิดพลาดเสมอ หุ้นบางตัวขึ้นโดยที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของมัน ถ้าคุณขายหุ้นและมันยังขึ้นคุณอาจใช้เวลาเป็นเดือนๆในการเตะก้นตัวเอง และใช้เวลาเป็นปีๆในการเตะก้นตัวเองในขณะที่หุ้นราคาตก ในโลกของธุรกิจคุณต้องตัดสินใจเป็นร้อยครั้งและมีสิบครั้งที่ผลออกมาไม่ดี คุณควรมองข้ามแล้วพยายามเริ่มต้นใหม่

ในโลกการลงทุน จะมีโอกาสเข้ามาหาคุณจำนวนมากทุกๆวัน คุณต้องไม่จับจ้องกับความผิดพลาด และเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น สิ่งที่ต้องทำคือประยุกต์บทเรียนจากความผิดพลาด แต่ความผิดพลาดที่คุณต้องระวัง คือการตัดสินใจจะซื้อหรือไม่ซื้อ ซึ่งคุณต้องตัดสินใจมัน

ผมต้องการที่จะสามารถอธิบายความผิดพลาดของผมได้ นี่หมายความว่าผมทำเฉพาะสิ่งที่ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้เท่านั้น

ถ้าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังทำแล้วคุณจะทำไปทำไม การลงทุนที่ถูกต้อง มันต้องไม่มาจากความมั่ว ต้องมาจากความมีเหตุผลบวกกับภาวะทางจิตใจ ถ้าคุณต้องการที่จะอธิบายว่าคุณทำอะไรพลาดไป คุณจะต้องรู้และอธิบายได้ว่ามันคืออะไรว่าคือสิ่งที่ถูกต้องและทำไมไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่แรก คุณต้องรู้ว่าบริษัทนั้นกำลังขายในราคาถูกหรือแพง ถ้าคุณไม่สามารถทำได้คุณควรหาคนอื่นมาทำแทน

ถ้าคุณไม่ทำสิ่งที่ผิดพลาด คุณก็ไม่สามารถตัดสินใจได้

คนที่สามารถตัดสินใจได้ดีจะเป็นผู้นำ ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจคือการทำผิดพลาด สำหรับใครที่ต้องตัดสินใจหลายๆครั้งใน 1 วัน แน่นอนว่าต้องมีผิดพลาดบ้าง แต่ถ้าผิดพลาดบ่อยเกินไปต้องหาคนอื่นมาทำแทนคุณ ซีอีโอก็สามารถทำผิดพลาดได้ตราบเท่าที่เขายังทำเงินให้กับผู้ถือหุ้น ส่วนสำคัญคือคุณต้องตัดสินใจให้ดีและก้าวต่อไปเรื่อยๆ ถ้าคุณช้าคุณอาจต้องหยุดอยู่กับที่และทำให้งานไม่เสร็จ ถ้าตัดสินใจแล้วผลออกมาไม่ดี วอเร็นแนะนำว่าอย่าไปหมกมุ่นกับความผิดพลาดนั้น คุณควรยืนขึ้นและก้าวต่อไป

ขอบเขตความรอบรู้ของคุณ

การลงทุนต้องมีเหตุผล ถ้าคุณไม่เข้าใจมันก็อย่าทำ

วอเร็นมีจุดยืน ว่าเขาจะต้องเข้าใจทุกๆกิจการที่เขา เข้าไปลงทุนเป็นอย่างดี ถ้าเขาไม่เข้าใจบางอย่างเขาจะไม่ลงทุนเด็ดขาด เขาจะอยู่ห่างจากอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ เขาชอบความแน่นอน ชอบธุรกิจที่เข้าใจได้ และขายในราคาที่น่าดึงดูด ปล่อยให้เกมเสี่ยงดวงเป็นเรื่องของคนอื่น

ถ้าคุณเข้าใจไอเดีย คุณจะสามารถอธิบายมันได้ ดังนั้นคนอื่นๆก็จะเข้าใจมันได้

นี่คือวิธีที่วอเร็นใช้ทดสอบว่าเข้าใจธุรกิจนั้นจริงๆหรือไม่ ก่อนที่จะลงทุน ถ้าเขาไม่สามารถอธิบายมันได้ เขาจะไม่ลงทุน คุณต้องมีความเข้าใจในระดับที่น่าพอใจ และอธิบายมันออกมา ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีในไอเดียการลงทุน มาตรฐานนี้จะบังคับให้คุณทำการบ้านก่อนลงทุนเสมอ

ถ้าเขาต้องการให้ผมช่วยในการบริหารกิจการ เป็นไปได้ว่าพวกเราทั้งคู่กำลังเดือดร้อน

การที่คุณเป็นนักลงทุนยิ่งใหญ่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีความสามารถในการเป็นผู้จัดการ นักลงทุนที่ยิ่งใหญ่จะต้องจำแนกศักยภาพของตัวเองได้ วอเร็นรู้ว่าเขาต้องการอะไรจากผู้บริหาร แต่เขาไม่เก่งพอที่จะบริหารมันเอง การรู้ความสามารถของตนเองและความสามารถของคนอื่น นี่คือกุญแจสู่การบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ การซื้อกิจการที่ดี มีราคาที่เหมาะสม มีผู้บริหารที่มีความสามารถในการบริหารกิจการ นี่คือความลับในการสร้างความเติบโต

วิธีของเรานั้นง่ายมาก เราแค่พยายามที่จะซื้อธุรกิจที่มีพื้นฐานที่ดีถึงดีมากที่สุด ซึ่งบริหารโดยบุคคลที่ซื่อสัตย์และมีความสามารถ และซื้อมันในราคาที่เหมาะสม นี่คือทั้งหมดที่ผมพยายามทำ

การจะรู้ว่าบริษัทไหนมีพื้นฐานที่ดีถึงดีมาก จำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจนั้นๆ การที่เราจะรู้ว่าบริษัทนั้นขายในราคาที่เหมาะสมหรือไม่คุณต้องเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจนั้น การเข้าใจธุรกิจนั้นๆคือกุญแจสำคัญในความสำเร็จของวอเร็น ถ้าเขาไม่เข้าใจพื้นฐานของธุรกิจนั้น เขาจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าธุรกิจนั้นดีหรือไม่ ธุรกิจที่เขาเข้าใจ เขาจะเก็บมันไว้ ส่วนธุรกิจที่ไม่เข้าใจ เขาจะปล่อยให้มันเป็นของคนอื่น

ถ้าเราไม่สามารถหาหุ้นที่อยู่ในขอบเขตความรอบรู้ของเราได้ เราจะไม่ขยายขอบเขตความรู้ของเรา เราจะรอ

วอเร็นอยู่บนหลักการของขอบเขตความรอบรู้ในการลงทุนถ้าบริษัทไหนเขามีความรอบรู้ เขาจะซื้อมันในราคาที่น่าสนใจ ถ้าบริษัทไหนอยู่นอกขอบเขตความรอบรู้ของเขาเขาจะไม่สนใจมัน เขาซื้อหุ้นที่ยังไม่เป็นที่นิยมในขณะที่ซื้อ เขาจะต้องเข้าใจธุรกิจนั้นดีพอที่จะคาดการณ์อนาคตได้ ถ้าเขาหาธุรกิจที่เข้าใจไม่ได้ เขาจะรอ และรอจนกระทั่งมันปรากฏออกมา ในการเลือกหุ้นที่จะลงทุน ถ้าคุณเลือกบริษัทที่ดีและราคาถูก คุณจะเป็นผู้ชนะในเกมการลงทุน

ไม่ว่าหัวหน้าจะโง่และดื้อด้านเพียงใด เขาจะได้รับการสนับสนุนด้วยการวิจัยที่เตรียมมาเป็นอย่างดีโดยลูกน้องของเขาเสมอ

ถ้าคุณใช้ชีวิตด้วยการเลียขาเจ้านาย คุณต้องทำให้เจ้านายพอใจ ชีวิตของคุณจะไม่ไปไหนเลยถ้าคุณทำงานกับคนที่ชอบพูดว่า “ผมบอกคุณแล้ว” นี้คือ เหตุผลที่ว่าทำไมวอเร็นจึงต้องการที่ปรึกษา นั่นเพราะว่ามันเร็วกว่า ถูกกว่า ตรงไปตรงมา และนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้อง

ในโลกธุรกิจนั้นกระจกมองหลังมักจะชัดกว่ากระจกมองหน้าเสมอ

การอธิบายเรื่องที่เกิดในอดีตมักจะดูเท่เสมอ แต่เรื่องของอนาคตเป็นสิ่งที่ซ่อนเร้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มันจึงเป็นเรื่องยากว่าคุณกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน ถ้าคุณมองไม่เห็นถนนข้างหน้านี่คือหนึ่งเหตุผลว่าทำไมวอเร็นจึงอยู่ห่างจากหุ้นไฮเทค เขาไม่มีไอเดียของหุ้นไฮเทคนั้นเป็นอย่างไรซึ่งแตกต่างจาก บิล เกตส์ นี่คือเหตุผลที่วอเร็นมักจะอยู่กับของที่จับต้องได้ คุณคิดไหมว่าผู้คนจะหยุดโกนหนวด หยุดดื่มโค้ก หยุดซื้อประกันรถยนต์ คงจะไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน เขาสนใจผลิตภัณฑ์ที่มองเห็นอนาคตได้

ผมมักจะสงสัยในบุคคลซึ่งเก่งมากในวงการใดวงการหนึ่ง โดยเฉพาะพวกสุดยอดนักกีฬาและดาราดังที่ชอบบอกให้คนอื่นทำแบบโน้นทำแบบนี้ สำหรับพวกเราการที่คิดว่าเราทำเงินได้มากเราจึงให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ ได้ดีทุกเรื่องนั้นการคิดแบบนั้นมันบ้าสิ้นดี

นี่คือทฤษฎีการลงทุนของวอเร็นที่จะลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่เข้าใจดี ซึ่งอยู่ในขอบเขตความรอบรู้ของเขาเท่านั้น และไม่ลงทุนนอกขอบเขตความรอบรู้ นี่อาจจะเป็นเคล็ดลับที่ทำให้เขาดูเหมือนว่าเป็นอัจฉริยะอยู่ตลอดเวลา นั่นคืออยู่กับสิ่งที่คุณรู้และมันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจที่คนรวยมักจะคิดว่าเงินนั้นทำให้ฉลาดไปเสียทุกเรื่อง

มันไม่ใช่ภาวะเศรษฐกิจที่ทำร้ายนักลงทุน แต่นักลงทุนต่างหากที่ทำร้ายตัวเอง

ตัวนักลงทุนคือคนที่โดดจากหุ้นตัวหนึ่งไปอีกหุ้นตัวหนึ่ง หรือไปจ่ายแพงเกินไปสำหรับบริษัทที่ไม่มีกำไรมารองรับ มันคือความไม่เต็มใจของนักลงทุน ที่จะต้องทำการบ้านในสิ่งที่จะลงทุน ดังนั้นพวกเขาจึงปิดตาตัวเองด้วยการลงทุนกับหุ้นที่นิยมแต่มีปัจจัยพื้นฐานที่ไม่ดี นักลงทุนจึงจบลงด้วยการพนันมากขึ้นและมากขึ้นจนเกินตัว พวกเขาลงทุนตามอารมณ์แทนที่จะลงทุนอย่างมีเหตุผลโดยเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งในบริษัทที่มองหากำไรด่วนโดยปิดตาตัวเองจากพื้นฐานในระยะยาวของธุรกิจ เหล่านี้คือปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนตกต่ำไม่ใช่ปัญหาของ GDP หรือดัชนีผู้บริโภค หรือเรื่องของธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย

ราคาที่คุณจ่าย

ด้วยเหตุผลบางประการของพวกเขาถูกนำทาง ด้วยการเคลื่อนไหวของราคาแทนที่จะเป็นมูลค่า

ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย แต่มูลค่าคือสิ่งที่คุณได้รับ

วอเร็นเชื่อว่าเงินที่จ่ายออกไปคือตัวกำหนดมูลค่าที่คุณได้รับ ยิ่งจ่ายแพงยิ่งได้รับน้อย ยิ่งจ่ายน้อยยิ่งได้รับมาก ถ้าธุรกิจได้กำไร 10 ล้านต่อปี และคุณซื้อด้วยเงิน 100 ล้าน แต่ถ้าคุณซื้อที่ 150 ล้าน คุณจะได้กำไรน้อยกว่า จ่ายมากได้น้อย จ่ายน้อยได้มาก เคล็ดลับก็คือต้องจ่ายให้น้อยเสมอแล้วจะได้มาก

ถ้ามันขึ้นไปแล้ว ก็อาจจะไม่จำเป็นที่มันจะต้องลงมา

สิ่งที่วอเร็นพูดก็คือราคาของหุ้น เบิร์กไชร์ฮาธาเวย์ มันขึ้นจาก 19 เหรียญในปี 1965 ไปถึง 95,000 เหรียญในปี 2006 บริษัทที่มีการเพิ่มมูลค่าที่แท้จริงอย่าง เบิร์กไชร์ฮาธาเวย์ สามารถจะทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นและสูงขึ้นไปเรื่อยๆได้

หลักสำคัญคือ ตลาดหุ้นนั้นมีหน้าที่เพียงแค่การตั้งราคาเท่านั้น มันมีไว้เพื่อรับใช้คุณ อย่าให้มันเป็นเจ้านายคุณ

สำหรับวอเร็นตลาดหุ้นเป็นที่บอกราคาในระยะสั้นๆเท่านั้น จึงทำให้ราคาหุ้นถูกปั่นไปปั่นมา นั้นหมายความว่าราคามันออกห่างจากความเป็นจริงในระยะยาว แต่โดยทั่วไปแล้วตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะประเมินมูลค่าหุ้นสูงไปเสมอ วอเร็นจะซื้อหุ้นเมื่อราคาของมันตกลงไปต่ำกว่ามูลค่าธุรกิจในระยะยาว จากนั้นก็รอให้ราคาหุ้นกลับขึ้นมา สูงเกินจริง ถ้าในมือของวอเร็นมีหุ้นของสุดยอดธุรกิจที่ราคาต่ำๆ เขาจะถือและปล่อยให้กำไรสะสมไป ที่สุดแล้วหุ้นจะมีราคาตามมูลค่าที่แท้จริงในระยะยาวเสมอ

ณจุดเริ่มต้น ราคาจะถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยพื้นฐาน แต่เมื่อมันไปถึงจุดหนึ่ง การเก็งกำไรจะเป็นตัวขับเคลื่อนแทน ซึ่งตรงกับคำโบราณที่ว่า คนฉลาดเป็นผู้เริ่มต้นและคนโง่เป็นคนที่จบมัน

คนฉลาดซื้อเมื่อเขาพอใจในพื้นฐานของบริษัท ต้องมี Margin of Safety ไว้ป้องกันการตกของหุ้น เวลาจะเป็นเพื่อนของปัจจัยพื้นฐาน พอจะเป็นตัวปรับราคาสะท้อนกับมูลค่าพื้นฐานของธุรกิจ เมื่อการเก็งกำไรเข้ามาปัจจัยพื้นฐานก็ถูกโยนออกจากหน้าต่าง ราคาจะเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง นักลงทุนที่เฉียบแหลมความต้องการของเขาจะมาจากการดูปัจจัยพื้นฐาน และเมื่อการเก็งกำไรจบลงราคาจะปรับลดลง มาเพื่อสะท้อนความต้องการ ซึ่งบางครั้งจะลดลงอย่างรุนแรงและยาวนาน ถ้าคุณเป็นนักเก็งกำไรและถือหุ้นไว้ขณะที่หุ้นตก คุณต้องการเพียงแค่กระจกถ้าต้องการเห็นคนโง่

ฝ่ายที่ฉลาดที่สุดในสงครามการไล่ราคาคือ ฝ่ายที่แพ้

สงครามการไล่ราคาจะทำให้ราคาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าผลตอบแทนจะลดลงเรื่อยๆ ยิ่งราคาสูงขึ้นเรื่อยๆสิ่งดีๆ ก็เหลือน้อยลง ปัญหาการไล่ราคาคือ อารมณ์จะเข้ามาแทนที่เหตุผล และไม่มีใครรวยด้วยการจ่ายเงินมากๆ สำหรับบางสิ่งบางอย่าง

หลักการนี้ใช้ได้กับธุรกิจค้าปลีกเป็นอย่างดี ถ้าคุณมีสินค้าต่ำกว่าคู่แข่ง คุณก็สามารถขายมันได้ในราคาถูก และก็กำจัดคู่แข่งของคุณออกไป เพราะราคาที่คุณขายอาจไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเท่ากับราคาที่คุณจ่ายไปในธุรกิจค้าปลีก

เข็มหมุดจะยืนรอฟองสบู่อยู่เสมอ และเมื่อทั้งสองมาพบกัน นักลงทุนรุ่นใหม่ก็จะได้เรียนรู้บทเรียนที่เก่าแก่

ความบ้าคลั่งจากการเก็งกำไรเมื่อเห็นราคาหุ้นหุ้นสูงขึ้นและต้องการกระโดดเข้าไปร่วมวงและหวังจะทำเงินได้ง่ายๆ มักจะเกิดขึ้นกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ราคาในตลาดหุ้นก็เหมือนกับภาพสะท้อนของความโลภในคาสิโน ซึ่งตรงกันข้ามกับมูลค่าพื้นฐานของบริษัทโดยสิ้นเชิง สำหรับวอเร็นแล้วราคาที่ต้องจ่ายออกไปสำหรับกำไรในอนาคตที่ยังไม่มีตัวตนนั้นมันเสี่ยงเกินไป

ผมไม่เคยพยายามทำเงินจากตลาดหุ้น ผมซื้อหุ้นบนสมมุติฐานที่ว่าตลาดจะปิดในวันพรุ่งนี้และไม่เปิดอีก 5 ปี

วอเร็นซื้อหุ้นโดยคิดว่าเขากำลังซื้อธุรกิจ บางครั้งตลาดหุ้นก็ยอมให้เขาซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าซื้อได้นอกตลาด ถ้าคุณซื้อหุ้นถูกตัวในราคาที่ถูกต้อง เวลาจะเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของคุณ ซึ่งจะทำให้คนรวยขึ้น ถ้าตลาดหุ้นปิดสัก 5 ปี มูลค่าที่แท้จริงของบริษัทก็ยังเพิ่มขึ้นอยู่ทุกๆวัน ก็ไม่สำคัญว่าตลาดจะคิดยังไงกับคุณของคุณที่ถือมาตลอด 5 ปี

มูลค่าของธุรกิจในระยะยาวคือเคล็ดลับในการหาประโยชน์จากการกระทำโง่ๆ ของตลาดหุ้นที่มองแต่ระยะสั้น

ตลาดหุ้นคือที่ที่ไม่มีการสไตร์ค คุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องตีบอลทุกลูกที่ขว้างเข้ามา คุณสามารถที่จะรอลูกสวยๆ ได้ แต่ปัญหาจะเกิดก็ต่อเมื่อคุณเป็นผู้จัดการการเงินที่บรรดาแฟนๆ ชอบตะโกนว่า “ตีสักทีซิเจ้าบื้อ”

ผู้จัดการการเงินที่แท้จริงก็คือธาตุของรายงานผลตอบแทนประจำไตรมาสและประจำปี ถ้าเขามีรายงานที่ไม่ดีเขาจะเสียลูกค้าไป ดังนั้นผู้จัดการกองทุนจึงต้องการแต่ผลกำไรในระยะสั้นเท่านั้น เขาจึงต้องพยายามเก็บแต้มในทุกๆการเคลื่อนไหวของตลาด ถ้าไม่ทำเช่นนั้นลูกค้าจะหาคนใหม่มาทำแทน ผู้จัดการกองทุนถูกจ้างมาเพื่อเกมในระยะสั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับราคาหุ้นที่ผันผวนเลย

การมองราคาหุ้นที่ผันผวนในระยะสั้นจะทำให้เกิดความผิดพลาดในการกำหนดราคา วอเร็นจะใช้ประโยชน์จากความผิดพลาดนี้ ถ้าคุณจะทำเงินก้อนโต จงอยู่ให้ห่างผู้จัดการกองทุนและเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากการมองสั้นๆ และการประเมินราคาในระยะยาวที่ผิดพลาดของพวกเขา

สิ่งที่เราเรียนรู้จากอดีตก็คือ คนส่วนใหญ่ไม่เรียนรู้อดีต

คนส่วนใหญ่ทำผิดพลาดแบบเดิมๆ พวกเขาจ่ายแพงไปสำหรับบริษัทที่เขาหวังว่าจะทำเงินได้ ความผิดพลาดง่ายๆ นี้ทำให้ตลาดและผู้จัดการกองทุนป้อนอาหารให้กับฝูงชนที่ชอบเก็งกำไร วอเร็นสร้างตัวโดยการเก็งกำไรระยะสั้น และประเมินราคาหุ้นที่ผิดไปจากความเป็นจริง

บทเรียนในอดีตไม่มีใครสนใจเรียนรู้ก็คือ หุ้นถูกตั้งราคาสูงไปจากปัจจัยพื้นฐานมากๆ ถ้ามีอะไรกระทบ แม้แต่นิดเดียวราคาจะร่วงอย่างรวดเร็ว และเล่นงานนักลงทุนที่ชอบจ่ายราคาสูงๆ ในช่วงตลาดกระทิง และเมื่อราคาตกวอเร็นจะสนใจในการซื้อหุ้น และถ้ามันตกมากพอ เขาก็จะซื้อมัน

มองความผันผวนของตลาดหุ้นในฐานะเป็นเพื่อนไม่ใช่ศัตรู และทำกำไรจากความโง่เขลาของมันแทนที่จะไปเข้าร่วมกับมัน

ตลาดหุ้นคือสัตว์ร้ายที่ไม่สนใจหุ้นในระยะยาวและจะซื้อขายกันในระยะสั้นเท่านั้น ถ้าตลาดมองระยะสั้นไม่ดีราคาก็จะร่วงอย่างไร้เหตุผล จึงทำให้มีโอกาสซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดีแต่ถูกมองในระยะสั้นไม่ดี จงอยู่ให้ห่างจากหุ้นเมื่อฝูงชนที่โง่เขลาเข้ามา และดันราคาให้ทะลุเพดาน จงซื้อเมื่อฝูงชนทิ้งหุ้นและราคาตกทะลุพื้น

โอกาสในการลงทุนที่ยิ่งใหญ่มักจะมาเมื่อบริษัทฉันเยี่ยมถูกล้อมด้วยสถานการณ์ที่ผิดปกติ ซึ่งทำให้ราคาของหุ้นนั้นถูกประเมินผิดไป

วอเร็นเรียนรู้ว่าบริษัทชั้นยอดจะถูกลงโทษจากการคิดสั้นๆ ในบางโอกาส ตลาดหุ้นจะทำลายราคาหุ้นให้ตกต่ำลงและราคาหุ้นจะถูกประเมินราคาผิดไปจากพื้นฐาน กุญแจสำคัญคือคุณต้องรู้ได้ว่าราคาที่ประเมินผิดไปนั้นจะถูกแก้กลับมาได้หรือไม่ นี่คือเหตุผลสำคัญที่คุณต้องรู้ว่าธุรกิจที่คุณลงทุนธรรมชาติมันเป็นอย่างไร

การลงทุนครั้งแรกของวอเร็นนั้น มันเป็นธุรกิจให้บริการราคาถูก และมันขยายตัวมากจนเกินไป จนทำให้มันเกือบล้มละลาย

วอเร็นรู้ว่าถ้าบริษัทกลับมาทำธุรกิจตามแนวคิดอนุรักษ์นิยมแบบเดิมบริษัทจะอยู่รอดได้ จน 15 ปี ผ่านไปธุรกิจก็กลับมามีกำไร

วอเร็นรู้ว่าจะแก้ไขข้อผิดพลาดในธุรกิจที่ผ่านมาได้อย่างไร แต่ตลาดหุ้นที่คิดสั้นๆ นั้นจะมองแค่ความผิดพลาดเฉพาะหน้าเท่านั้น

ที่จริงแล้วความไม่แน่นอนคือเพื่อนของผู้ซื้อที่มองมูลค่าในระยะยาว

ความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นสร้างความกลัวและความตกใจ ทำให้ราคาตกลงโดยไม่สนใจพื้นฐานของธุรกิจ และจะทำให้เกิดโอกาสในการซื้อถ้ามูลค่าของธุรกิจในระยะยาวสูงกว่าราคาหุ้น เพราะปัจจัยที่ดีจะทำให้ราคากลับมาสู่สภาพความเป็นจริง วอเร็นมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมูลค่าในระยะยาวของธุรกิจเป็นอย่างดี มันจึงทำให้เขารู้ว่าบริษัทไหนจะกลับมาเมื่อนักลงทุนอื่นๆคิดว่าความไม่แน่นอนหมดไปแล้ว

มีทั้งบริษัทและหุ้นมากเกินไปใรวอลสตรีทที่ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่วัตถุดิบในการเก็งกำไรเท่านั้น

ผู้จัดการการเงินมีแนวโน้มจะไม่มองว่าบริษัทและหุ้นเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ มองแค่ตัวเลขที่เด้งไปเด้งมาบนจอและมีไว้สำหรับเล่นพนันเท่านั้น วาเลนทำเงินจากนักพนันเหล่านี้เมื่อเขาขายหุ้นอย่างหนัก ผู้คนชอบเล่นพนันเพราะมันทำให้เขาตื่นเต้น บวกกับในตลาดหุ้นคุณสามารถยืมเงินของโบรกเกอร์ได้ การพนันคือเหตุผลที่ทำให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรงจนทำให้ผู้จัดการการเงินต้องทิ้งหุ้นออกมาโดยไม่สนใจราคา อย่างที่วอเร็นพูด “ลองคิดถึงโรงหนังที่ไฟไหม้ ทางเดียวที่จะหนีออกจากเก้าอี้ตลาดหุ้นที่ไฟกำลังไหม้ได้ก็คือหาคนอื่นมานั่งเก้าอี้แทน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”

ไม่สำคัญว่าจะเก่งหรืออุตสาหะขนาดไหน เพราะบางอย่างจะต้องใช้เวลา คุณไม่สามารถที่จะคลอดเด็กได้ภายในเดือนเดียวโดยใช้คนอุ้มท้องเก้าคน

มันต้องใช้เวลาในการที่มูลค่าของธุรกิจจะเติบโต มันไม่สามารถโตได้ในช่วงข้ามคืน ธุรกิจก็เหมือนกับเด็กที่ต้องใช้เวลาในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ถ้าคุณซื้อบริษัทที่ยอดเยี่ยมท้ายที่สุดแล้วมันจะโตอย่างสวยงามแน่นอน เวลาจะทำให้ธุรกิจที่ยอดเยี่ยมโตและทำให้ผู้ถือหุ้นรวยมันแค่ต้องใช้เวลาที่นานกว่าเท่านั้น

ถ้าประวัติศาสตร์นั้นซ้ำรอยเสมอ คนที่รวยที่สุดก็น่าจะเป็นบรรณารักษ์

การเข้าใจประวัติศาสตร์ทางธุรกิจมีความจำเป็นในการเรียนรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่ได้บอกคุณว่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ การคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นส่วนหนึ่งของนักลงทุน วอเร็นคาดการณ์อนาคตด้วยการลงทุนในธุรกิจที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สินค้าที่คาดการณ์ได้ แต่ถ้าผลิตภัณฑ์ของบริษัทไหนต้องเปลี่ยนแปลงปรับปรุงสายการผลิตบ่อยๆ มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดการณ์อนาคตได้ คุณจะทำเงินก้อนโตได้จากการที่รู้ว่าอะไรรอเราอยู่ในอนาคต

ซื้อเฉพาะหุ้นที่คุณจะมีความสุขที่ได้ถือมันไว้ แม้ตลาดจะปิดไปซัก 10 ปี

คำถามนี้จะทำให้คุณหยุดคิดถึงเรื่องของระยะสั้นและเริ่มคิดถึงเรื่องระยะยาว เมื่อคุณคิดถึงคุณภาพและธรรมชาติของธุรกิจในระยะยาว ทำให้คุณตั้งคำถามของผลิตภัณฑ์บริษัทนั้น ซึ่งมันหมายถึงกำไรที่สูงขึ้นและผลิตภัณฑ์ไม่เปลี่ยนแปลงมาก หมายถึงเครื่องจักรไม่ต้องถูกกำจัด ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ มีงบวิจัยและพัฒนาไม่สูง ต้นทุนต่ำก็หมายถึงกำไรสูง และหมายถึงเงินที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย

นักลงทุนในวันนี้จะไม่ได้กำไรจากการเติบโตของเมื่อวาน

การเติบโตในวันพรุ่งนี้คือสิ่งที่นักลงทุนจะได้กำไรจากมันในวันนี้ ถ้าคุณซื้อกิจการวันนี้ กำไรจะได้ก็คือกำไรทั้งหมดในอนาคต คำถามก็คือ จะมีการเติบโตหรือไม่ และถ้าคุณจ่ายมันแพงเกินไปมันจะไปลดเงินกำไรในอนาคตของคุณ ถ้าคุณจ่าย 100 ล้านกิจการทำเงินให้คุณได้ 1 ล้านต่อปี แต่ถ้าเทียบกับคุณจ่าย 100 ล้าน ทำเงินได้ 20 ล้านต่อปี เป็นตัวเลขที่คุณสามารถตัดสินใจได้ แต่สิ่งที่ยากต่อการตัดสินใจคือตัวเลขที่อยู่ตรงกลาง คุณควรจะอยู่ให้ห่างจากตัวเลขกลางๆ และไปอยู่ฝั่งที่ตัวเลขกำไรสูงๆ

ผมคงจะเป็นขอทานถือถ้วยอยู่ข้างถนน ถ้าตลาดนั้นมีประสิทธิภาพ

ตลาดหุ้นนั้นมีประสิทธิภาพที่กำหนดราคาหุ้นได้ถูกต้องถ้ามองในระยะสั้นๆ แต่มักจะกำหนดผิดไปจากภาพในระยะยาวเสมอ ซึ่งหมายความว่าถ้ามองในระยะยาวตลาดหุ้นจะไม่มีประสิทธิภาพ วอเร็นเคยอธิบายไว้การซื้อหุ้นสถานีโทรศัพท์ 4 แห่ง มูลค่ารวมอย่างน้อย 500 ล้านเหรียญ แต่ตลาดหุ้นให้มูลค่าเพียงแค่ 100 ล้านเหรียญ นั่นเป็นเพราะว่ามุมมองในระยะสั้นไม่คิดว่าบริษัทจะทำได้ดีในปีหน้า ซึ่งก็ถูกแต่ถ้ามองระยะยาว วอเร็นซื้อหุ้นบางส่วนด้วยเงิน 10 ล้านเหรียญ 30 ปีต่อมากลายเป็น 1.5 พันล้านเหรียญ สิ่งที่ต้องจำคือ ประสิทธิภาพในระยะสั้นสร้างความไม่มีประสิทธิภาพในระยะยาว ซึ่งคุณหาประโยชน์ได้จากมัน

สำหรับผมตลาดหุ้นนั้นไม่มีตัวตน มันอยู่ตรงนั้นเพียงแค่ให้คุณเห็นคนอื่นๆ ทำในสิ่งที่โง่เขลา

วอเร็นไม่เคยสนใจทิศทางของตลาดหุ้นแม้แต่น้อย เขาสนใจในเรื่องของนักเลือกหุ้นระยะสั้นที่บริหารกองทุนขนาดใหญ่ว่ากำลังทำอะไรโง่ๆ อยู่หรือเปล่า

เราเชื่อว่าตั้งแต่นักลงทุนรายย่อยไปจนถึงนักลงทุนสถาบันที่ชอบซื้อขายรายวันนั้นเหมือนกับการที่คุณหมั้นกับคนที่เพิ่งรู้จักกันเพียงวันเดียว

การซื้อขายอย่างบ้าคลั่งของกองทุนรวมและกองทุนประกันความเสี่ยง เขาซื้อแม้เพียงราคาลงเพียงน้อยนิด และไขมันเพียงแค่ราคาขึ้นเพียงน้อยนิดเช่นกัน กลยุทธ์นี้ทำให้พวกเขาซื้อหุ้นเมื่อราคามันขึ้นอย่างรวดเร็วและขายเมื่อราคามันกำลังตก ถ้าบริษัทกำไรลดลงเพียงนิดเดียวพวกเขาก็จะขายหุ้น แต่ถ้ากำไรเพิ่มก็จะซื้อมัน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การลงทุนมันเป็นการเก็งกำไรภายใต้ชื่อการลงทุน การลงทุนคือการซื้อส่วนหนึ่งของกิจการและเฝ้ารอมันเติบโต

เราไม่มี ไม่เคยมี และจะไม่มีความเห็นเกี่ยวกับตลาดหุ้น อัตราดอกเบี้ย หรือกิจกรรมทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น 1 ปีนับจากนี้

ลองจินตนาการดูถ้าทำเงินจากตลาดหุ้นได้เป็นพันล้านเหรียญ โดยไม่มีความคิดเห็นหรืออัตราดอกเบี้ย วอเร็นทำมันได้อย่างไร เขาทำมันได้เพราะคนอื่นๆหมกมุ่นอยู่กับตลาดหุ้นที่ผันผวน และเมื่อนักลงทุนขายหุ้นที่ดีมากด้วยเหตุผลบื้อๆ วอเร็นจะรอรับซื้อ และเมื่อเขาได้มันเขาจะไม่ปล่อยมันไปง่ายๆ ถ้าคุณต้องการเป็นซุปเปอร์เศรษฐี คุณเพียงแค่ไม่สนใจสิ่งเพ้อเจ้อเกี่ยวกับทิศทางของตลาดหุ้น และลืมเรื่องขึ้นลงของอัตราดอกเบี้ย คุณแค่มองหาบริษัทที่มีมูลค่า ถ้าคุณขยันและยืนหยัดอยู่กับหลักการได้นานพอ ในท้ายที่สุดคุณจะได้เป็นเจ้าของซุปเปอร์หุ้น ซึ่งหมายถึงจะทำให้คุณรวยอย่างยั่งยืนเหมือนกับที่วอเร็นเป็น

ในบรรดาเศรษฐีพันล้านที่ผมรู้จัก เงินนั้นมักจะดึงเอาสันดานที่แท้จริงออกมาเสมอ ถ้าเขาเป็นคนโง่ก่อนที่จะมีเงิน เมื่อมีเงินแล้วเขาก็เป็นเพียงคนโง่ที่มีเงินพันล้านเท่านั้น

เงินจะเป็นตัวทำให้คุณเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ถ้าคุณเป็นคนใจดีมีเมตตา คุณจะยิ่งใจดีและเมตตามากขึ้นหลังจากที่รวยแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นคนขี้เหนียวและใจแคบ คุณก็จะเป็นแบบนี้มากขึ้นกว่าเดิม ท้ายที่สุดแล้วคนดีจะเป็นคนดีไม่ว่าพวกเขาจะรวยหรือจน สิ่งที่สำคัญคือพวกเขาเป็นคนดีไม่ว่าพวกเขาจะรวยหรือจน

สั่งซื้อหนังสือ “วิถีเต๋า วิถีบัฟเฟตต์” ได้ที่นี่ : คลิ๊ก