คำว่า SOS คือ สัญญาณขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ที่ย่อมาจาก Save Our Ship หรือ Save Our Souls ที่รัฐบาลเยอรมนีนำมาใช้สำหรับเหตุฉุกเฉินทางทะเล แท้จริงแล้วมาจากรหัสมอส (Morse Code) ที่ไว้ขอความช่วยเหลือตอนเดินเรือ เป็นการส่งข้อความด้วยสัญญาณไฟ หรือ วิธีการเคาะที่เทียบเคียงตัวอักษรภาษา เป็น SOS รหัสที่ใช้เป็นการเรียง สามจุด / สามขีด / สามจุด ( …—…) ไม่มีช่องว่างระหว่างตัวอักษร ทำให้นักเดินเรือง่ายต่อการจดจำ และง่ายในการกดเมื่อเกิดเหตุอันตราย SOS จึงได้ถูกใช้เป็นหลักสากลตั้งแต่ปี 1908 เป็นต้นมา

สัญญาณ SOS ได้รับการยอมรับมากขึ้นจากการจมของเรือไททานิกบนน่านน้ำที่เย็นจัดในปีค.ศ. 1912 โดยเจ้าหน้าที่บนเรือได้ส่งสัญญาณ SOS แจ้งไปยังสถานี และเรือที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อให้ทราบเหตุฉุกเฉิน นำไปสู่การช่วยเหลือคนบนเรือในที่สุด ปัจจุบันสัญญาณ SOS ไม่ได้ใช้ขอความช่วยเหลือจากเหตุฉุกเฉินทางทะเลอย่างเดียว ยังรวมถึงการส่งสัญญาณควัน สัญญาณไฟ และสัญญาณเสียงด้วย

ยกตัวอย่างเหตุการณ์ส่งสัญญาณ SOS กรณีที่ไม่สามารถติดต่อใครได้ ต่อให้ตะโกนดังแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยินในบางเหตุกาณ์ เช่น

  • สัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อหลงป่า หาพื้นที่โล่งๆ แล้วเรียงกิ่งไม้ ดอกไม้ ก้อนหิน เป็นตัวอักษร SOS เพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
  • สัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อติดถ้ำหรืออยู่ในที่แคบ ให้ใช้หินขีดเขียนสัญลักษณ์ SOS ไว้ที่ผนังถ้ำเพื่อขอความช่วยเหลือ
  • สัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อติดเกาะ ให้เขียนทรายบริเวณชายหาดที่คลื่นซัดมาไม่ถึง หรือเรียงก้อนหิน ให้เป็นคำว่า SOS ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเราจะเกิดเรื่องฉุกเฉิน หรือเหตุการณ์ณ์อันตรายเมื่อไหร่ หรือเกิดที่ไหน การรู้จักความหมายของ SOS ซึ่งเป็นคำสากลที่เข้าใจกันทั่วโลกก็จะสามารถทำให้เราส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ทุกที่ ทางที่ดีควรมีสติตลอดเวลา อย่าใช้ชีวิตประมาท หากเกิดเหตุการณ์ณ์ไม่คาดฝันจะได้รับมือได้นะทุกคน