Source: https://www.wallstreetmojo.com/bonds/

หุ้นกู้และพันธบัตร (Bonds) เป็นหนี้สินระยะยาวชนิดหนึ่งที่ผู้ออกหุ้นกู้ (Bond issuers) เป็นลูกหนี้ ส่วนผู้ที่ถือหุ้นกู้อยู่ (Bond holders) เป็นเจ้าหนี้ จัดว่าเป็นสัญญาที่ผูกมัดผู้ออกหุ้นกู้ให้จ่ายเงินให้กับผู้ถือหุ้นกู้ตามที่ตกลงกันไว้ โดยอาจจ่ายให้เป็นช่วงๆ หรืออาจจ่ายให้ทีเดียวเมื่อถึงวันครบกำหนดไถ่ถอน (Maturity date) ซึ่งจะมีคำศัพท์ที่ต้องทำความเข้าใจดังนี้

Bond Terminology

  1. Par value (Face value) เป็นจำนวนเงินที่ลูกหนี้จะจ่ายให้ลูกหนี้ในวันครบกำหนดไถ่ถอน และยังเป็นมูลค่าสำหรับการคำนวณดอกเบี้ยจ่าย (Coupon payment)
  2. Coupon rate คืออัตราดอกเบี้ยที่ใช้คำนวณ Coupon payments
  3. Coupon payments คือดอกเบี้ยที่จ่ายให้เจ้าหนี้เป็นช่วงๆ คำนวณได้จากการนำ Par value คูณด้วย Coupon rate
  4. Effective rate of interest คืออัตราดอกเบี้ยที่ Discount ทั้ง Coupon payments และ Par value กลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน ซึ่งจะเท่ากับราคาตลาด (มีการเปลี่ยนแปลงตลอดอายุของ Bond ไม่เหมือนกับ Coupon rate)
  5. Balance sheet liability of Bond คือมูลค่าปัจจุบันของทั้ง Coupon payments และ Par value ที่คิดลดด้วย Effective rate of interest ณ ช่วงเวลาที่ออก Bond เท่านั้น ดังนั้นในวันครบกำหนดไถ่ถอน หนี้สินก้อนนี้จะมีมูลค่าเท่ากับ Par value ของ Bond นั่นเอง
  6. Interest expense ที่บันทึกลงใน Income statement จะมีค่าเท่ากับ Balance sheet liability of Bond คูณด้วย Effective rate of interest ณ ช่วงเวลาที่ออก Bond

ระหว่าง Effective rate of interest กับ Coupon rate ของ Bond จะมีความสัมพันธ์ดังนี้

– หาก Coupon rate มีค่าต่ำกว่า Effective rate of interest แปลว่า Bond จ่ายดอกเบี้ยให้ในมูลค่าที่ต่ำกว่า Par value ส่งผลให้มีราคาซื้อขาย Bond ที่ต่ำกว่า Par value ด้วยเช่นกัน เรียกว่า “Discount bonds

– หาก Coupon rate มีค่าสูงกว่า Effective rate of interest แปลว่า Bond จ่ายดอกเบี้ยให้ในมูลค่าที่สูงกว่า Par value ส่งผลให้มีราคาซื้อขาย Bond ที่สูงกว่า Par value เรียกว่า “Premium bonds

– หาก Coupon rate มีค่าเท่ากับ Effective rate of interest แปลว่า Bond จ่ายดอกเบี้ยให้ในมูลค่าที่เท่ากับ Par value และจะมีราคาซื้อขายเท่า Par value เรียกว่า “Par bonds

เรื่อง Bonds เป็นสิ่งที่หากเข้าใจคอนเซปต์เบื้องต้นแล้วเรื่องการคำนวณต่างๆจะค่อนข้างตรงไปตรงมา ในบทความถัดไปเราจะมาอธิบายเกี่ยวกับวิธีการคำนวณหามูลค่าของทั้ง Par, Discount, และ Premium bonds ที่หลักๆจะใช้เพียงแค่หลักการจาก Time-value of money ง่ายๆเท่านั้น

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง