เจ้าของ KFC ไก่ทอดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

KFC หรือชื่อเต็ม Kentucky Fried Chicken เป็นหนึ่งในแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดที่รู้จักกันทั่วโลก และเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คนที่หลงใหลในรสชาติของไก่ทอดที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสูตรลับเฉพาะที่มีการใช้เครื่องเทศถึง 11 ชนิดทำให้ KFC มีรสชาติที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่การเปิดตัวในปี 1952 จนถึงปัจจุบัน KFC ได้เติบโตเป็นหนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีการขยายตลาดไปในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยที่ได้รับความนิยมไม่น้อย

ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปสำรวจ ประวัติที่มาของ KFC พร้อมทั้งตัวเลขและข้อมูลทางการเงินที่สำคัญเกี่ยวกับการเติบโตของธุรกิจนี้

KFC เริ่มต้นจาก ฮาร์แลนด์ เดวิด ซอนเดอร์ส (Harland David Sanders) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “พันเอกแซนเดอร์ส” (Colonel Sanders) ผู้ก่อตั้งร้านอาหารที่กลายมาเป็นหนึ่งในแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดระดับโลก เขาเกิดในปี 1890 ที่รัฐอินเดียน่า สหรัฐอเมริกา และเริ่มต้นอาชีพเป็นคนทำอาหารตั้งแต่ช่วงวัยหนุ่ม แม้ว่าในช่วงเริ่มต้นเขาจะประสบปัญหาในอาชีพหลายอย่าง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ และเริ่มพัฒนาอาหารที่เขาถนัดไปจนถึงการเปิดร้านอาหารของตัวเองที่รัฐเคนทักกีในปี 1936 โดยมีการเสิร์ฟ ไก่ทอด ที่เป็นสูตรลับของเขา

การเปิดร้านของแซนเดอร์สไม่ได้ประสบความสำเร็จในทันที และธุรกิจของเขาก็ล้มเหลวหลายครั้ง จนกระทั่งในปี 1952 เขาได้ตัดสินใจเริ่มต้นการขาย แฟรนไชส์ ของร้าน KFC ครั้งแรก ซึ่งทำให้ KFC เริ่มขยายไปยังที่ต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก หลังจากนั้นไม่นาน KFC ก็ได้รับความนิยมและกลายเป็นหนึ่งในร้านฟาสต์ฟู้ดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด

ในปี 1964 แซนเดอร์สขายกิจการ KFC ให้กับกลุ่มนักลงทุนในราคา 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 15 ล้านเหรียญในปัจจุบัน) และเขายังคงเป็นผู้บริหารที่มีบทบาทสำคัญในบริษัทในฐานะ “โฆษก” ของแบรนด์ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 1980

ตั้งแต่การขายกิจการให้กับกลุ่มนักลงทุนในปี 1964 KFC ก็เริ่มขยายตัวไปในตลาดต่างประเทศ โดยในปี 1967 KFC เปิดสาขาแรกในต่างประเทศที่ แคนาดา และต่อมาในปี 1971 KFC เปิดสาขาแรกใน ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับ KFC โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ KFC เป็นที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่น

ปัจจุบัน KFC เป็นหนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีสาขามากที่สุดในโลก โดยมีมากกว่า 29,900 สาขาในกว่า 149 ประเทศ (ข้อมูลจากปี 2023) และได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของ Yum! Brands ซึ่งยังมีแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดอื่นๆ เช่น Pizza Hut และ Taco Bell อยู่ภายใต้การดูแล

KFC เข้ามาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2526 (ค.ศ. 1983) ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงแรกๆ และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว การเข้ามาของ KFC ทำให้ผู้บริโภคไทยได้รู้จักกับแนวคิดของร้านฟาสต์ฟู้ดที่มีความสะดวกสบายและคุณภาพของอาหารที่มาตรฐานสากล

จนถึงปัจจุบัน KFC มีสาขามากกว่า 800 สาขาทั่วประเทศ และเป็นหนึ่งในแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดไทย โดย KFC ได้ปรับตัวให้เข้ากับความชอบและรสนิยมของคนไทย เช่น การเปิดเมนู ไก่ทอดสูตรเผ็ด หรือ เมนูข้าวไก่ทอด ที่มีความเหมาะสมกับความชื่นชอบในอาหารที่มีรสชาติกลมกล่อมและเผ็ดร้อน

ในด้านการเงิน KFC ในประเทศไทยก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย รายงานยอดขายรวมในปี 2022 อยู่ที่ กว่า 18,000 ล้านบาท สำหรับ KFC ในประเทศไทย โดยมียอดขายเติบโตเฉลี่ย 5-6% ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่น่าสนใจในตลาดฟาสต์ฟู้ดที่มีการแข่งขันสูง

ปัจจุบัน KFC ในไทย มีเจ้าของร่วมกันอยู่ 3 ราย ได้แก่

บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG)
บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (RD)
บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA)

การเติบโตของ KFC ไม่เพียงแต่เป็นผลมาจากการขยายสาขาในหลายประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างมูลค่าทางธุรกิจที่ยั่งยืน ตัวเลขที่สำคัญที่แสดงถึงความสำเร็จของ KFC ได้แก่:

ยอดขายทั่วโลก: ในปี 2023 KFC รายงานยอดขายรวมกว่า 33,860 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดที่มียอดขายสูงสุดในโลก
จำนวนสาขาทั่วโลก: KFC มีมากกว่า 24,000 สาขา ในกว่า 149 ประเทศ โดยสาขาที่เติบโตเร็วที่สุดมักจะอยู่ในตลาดเอเชีย
การลงทุนในประเทศไทย: KFC ในไทยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มซีพีในการลงทุนทั้งในด้านการเปิดสาขาใหม่และการพัฒนาเมนูใหม่ๆ ตลอดเวลา

KFC เป็นตัวอย่างที่ดีของการเริ่มต้นจากธุรกิจเล็กๆ ที่มีความพยายามและความทุ่มเทจนกลายเป็นแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดระดับโลก การเติบโตของ KFC ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากการพัฒนาและการลงทุนที่มุ่งเน้นความพึงพอใจของลูกค้า และการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศ

สำหรับประเทศไทย KFC ได้สร้างผลกระทบอย่างมากในตลาดฟาสต์ฟู้ด และยังคงมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ โดยการคงรักษาความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคด้วยเมนูที่หลากหลายและคุณภาพที่สม่ำเสมอ หากจะพูดถึง เจ้าของ KFC ตั้งแต่ต้นกำเนิดจนถึงปัจจุบันก็ต้องยกให้ พันเอกแซนเดอร์ส เป็นผู้ที่ทำให้ KFC กลายเป็นแบรนด์ที่ทุกคนรู้จักจนถึงทุกวันนี้

ข้อมูลอ้างอิง :