ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับดุลการชำระเงิน

เมื่อธุรกิจและประชาชนในประเทศหนึ่งต้องการซื้อสินค้า บริการ หรือสินทรัพย์ทางการเงินจากต่างประเทศ พวกเขาจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเงินตราของตนเป็นสกุลเงินของประเทศที่ต้องการทำธุรกรรมด้วย ในทางกลับกัน เมื่อชาวต่างชาติต้องการซื้อสินค้า บริการ หรือสินทรัพย์ทางการเงินจากประเทศนั้น พวกเขาก็ต้องแลกเปลี่ยนเงินตราของตนเป็นสกุลเงินของประเทศนั้นเช่นกัน การเคลื่อนย้ายเงินทุนเหล่านี้ต้องมีความสมดุลกัน โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของหนี้ต่างประเทศที่มีต่อประเทศและหนี้ในประเทศที่มีต่อต่างประเทศด้วย

องค์ประกอบของดุลการชำระเงิน

ตามคำอธิบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ดุลการชำระเงินประกอบด้วย 3 บัญชีหลัก ได้แก่:

1. บัญชีเดินสะพัด (Current Account)

ประกอบด้วย 3 บัญชีย่อย:

  • สินค้าและบริการ: ครอบคลุมการซื้อขายสินค้าวัตถุดิบ สินค้าสำเร็จรูป บริการด้านการท่องเที่ยว การขนส่ง บริการทางธุรกิจและวิศวกรรม รวมถึงค่าลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรต่างๆ
  • รายได้: รวมถึงรายได้จากต่างประเทศในรูปเงินปันผลจากการถือหุ้นและดอกเบี้ยจากตราสารหนี้
  • เงินโอนฝ่ายเดียว: เป็นการโอนสินทรัพย์ทางเดียว เช่น เงินที่แรงงานต่างชาติส่งกลับประเทศ และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ

2. บัญชีทุน (Capital Account)

ประกอบด้วย 2 บัญชีย่อย:

  • การโอนเงินทุน: รวมถึงการยกหนี้ให้ สินทรัพย์ที่ผู้อพยพนำติดตัวเข้า-ออกประเทศ การโอนกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ถาวร ภาษีมรดก และความเสียหายที่ไม่ได้ประกันของสินทรัพย์ถาวร
  • การซื้อขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ผลิต: เช่น สิทธิในทรัพยากรธรรมชาติ และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน อาทิ สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า และสัมปทาน

3. บัญชีการเงิน (Financial Account)

ประกอบด้วย 2 บัญชีย่อย:

  • สินทรัพย์ของรัฐบาลในต่างประเทศ: รวมถึงทองคำ เงินตราต่างประเทศ หลักทรัพย์ต่างประเทศ ฐานะการถือครองใน IMF การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ และสิทธิเรียกร้องต่อธนาคารต่างประเทศ
  • สินทรัพย์ของต่างชาติในประเทศ: ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาล หลักทรัพย์ภาคเอกชน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เงินบาทที่ต่างชาติถือครอง และหนี้สินต่อต่างประเทศที่รายงานโดยธนาคารพาณิชย์

ความสัมพันธ์ระหว่างการค้าและการลงทุน

ประเทศที่นำเข้ามากกว่าส่งออกจะมีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ในขณะที่ประเทศที่ส่งออกมากกว่านำเข้าจะมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด การขาดดุลการค้าต้องได้รับการชดเชยด้วยการเกินดุลในบัญชีทุนและบัญชีการเงิน นักวิเคราะห์การลงทุนมักพิจารณาการเคลื่อนย้ายเงินทุนทั้งหมดรวมกันในรูปของบัญชีทุนรวม

หากการออมสุทธิของประเทศ (ทั้งภาครัฐและเอกชน) ต่ำกว่าการลงทุนในประเทศ จำเป็นต้องกู้ยืมจากต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเกินดุลบัญชีทุนและการขาดดุลการค้า โดยสามารถเขียนความสัมพันธ์ได้ดังนี้:

X – M = การออมภาคเอกชน + การออมภาครัฐ – การลงทุน

องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการเงินระหว่างประเทศ

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

มีเป้าหมายหลักตามข้อตกลงมาตรา 1 ดังนี้:

  • ส่งเสริมความร่วมมือทางการเงินระหว่างประเทศ
  • สนับสนุนการขยายตัวและการเติบโตที่สมดุลของการค้าระหว่างประเทศ
  • ส่งเสริมเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน
  • ช่วยจัดตั้งระบบการชำระเงินพหุภาคี
  • จัดหาทรัพยากรช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหาดุลการชำระเงิน

ธนาคารโลก (World Bank)

เป็นแหล่งความช่วยเหลือทางการเงินและวิชาการที่สำคัญสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ประกอบด้วยสถาบันพัฒนา 2 แห่ง ได้แก่:

  • IBRD (International Bank for Reconstruction and Development): มุ่งลดความยากจนในประเทศรายได้ปานกลางและประเทศยากจนที่มีความน่าเชื่อถือ
  • IDA (International Development Association): เน้นช่วยเหลือประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก

ธนาคารโลกให้ความช่วยเหลือผ่านเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ สินเชื่อปลอดดอกเบี้ย และเงินช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนา เพื่อการลงทุนในด้านการศึกษา สาธารณสุข การบริหารภาครัฐ โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาภาคการเงินและเอกชน การเกษตร และการจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

องค์การการค้าโลก (WTO)

เป็นองค์กรระหว่างประเทศเพียงแห่งเดียวที่ดูแลกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ มีหน้าที่หลักในการทำให้การค้าระหว่างประเทศดำเนินไปอย่างราบรื่น คาดการณ์ได้ และเสรี โดยมีกลไกระงับข้อพิพาทที่มุ่งเน้นการตีความข้อตกลงและพันธกรณี เพื่อให้นโยบายการค้าของประเทศต่างๆ สอดคล้องกับข้อตกลง ช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อพิพาทจะลุกลามเป็นความขัดแย้งทางการเมืองหรือการทหาร

หัวใจของระบบการค้าพหุภาคีคือข้อตกลง WTO ที่เจรจาและลงนามโดยประเทศสมาชิกส่วนใหญ่และได้รับการให้สัตยาบันโดยรัฐสภาของประเทศนั้นๆ ข้อตกลงเหล่านี้เป็นกฎหมายพื้นฐานสำหรับการค้าระหว่างประเทศ รับประกันสิทธิทางการค้าที่สำคัญแก่ประเทศสมาชิก และผูกพันรัฐบาลให้รักษานโยบายการค้าภายในขอบเขตที่ตกลงกันเพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย

สรุป

ดุลการชำระเงินระหว่างประเทศประกอบด้วย 3 บัญชีหลัก ได้แก่ บัญชีเดินสะพัด บัญชีทุน และบัญชีการเงิน โดย (1) บัญชีเดินสะพัดบันทึกการค้าสินค้าและบริการ รายได้ และเงินโอนฝ่ายเดียว (2) บัญชีทุนบันทึกการโอนเงินทุนและการซื้อขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ผลิต (3) ส่วนบัญชีการเงินบันทึกสินทรัพย์ของรัฐบาลในต่างประเทศและสินทรัพย์ของต่างชาติในประเทศ การขาดดุลในบัญชีหนึ่งต้องได้รับการชดเชยด้วยการเกินดุลในบัญชีอื่น โดยมีองค์กรระหว่างประเทศสำคัญที่เกี่ยวข้อง 3 องค์กร คือ (1) IMF ทำหน้าที่ส่งเสริมความร่วมมือทางการเงินระหว่างประเทศ (2) ธนาคารโลกให้ความช่วยเหลือทางการเงินและวิชาการแก่ประเทศกำลังพัฒนา และ (3) WTO ดูแลกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ