ประวัติ :
หนึ่งในเทรดเดอร์ที่เก่งที่สุด และเป็นเทรดเดอร์คนแรกๆ ที่คิดค้นและพัฒนาระบบการเทรดด้วยคอมพิวเตอร์
หากใครลงทุนกับซีโคตา จะพบอัตราผลตอบแทนที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก เช่น หนึ่งในบัญชีลูกค้าของเขาเริ่มต้นด้วยเงิน 5,000 ดอลลาร์ ภายใน 4 ปี ผลตอบแทนเพิ่มสูงถึง 250,000% (ประมาณ 15 ล้านดอลลาร์)
Ed Seykota เป็นคนที่ช่วยเปลี่ยนแปลงให้ ไมเคิล มาร์คัส กลายมาเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
- จบวิศวกรรมไฟฟ้า จาก MIT
- เป็นเทรดเดอร์ที่ไม่ได้มีจอเทรดเต็มโต้ะ การเทรดของเขาจำกัดอยู่แค่ในเวลาไม่กี่นาที เพื่อที่จะเปิดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งจะส่งสัญญาณซื้อขายสำหรับวันถัดไป
- เขาเริ่มต้นเทรด เพราะ หลงใหลกับการรับรู้ข่าวของตลาดที่แตกต่างจากปกติทั่วไป (ข่าวดี แต่ราคาลง เป็นต้น)
- ใช้ IBM 360 ที่บริษัท ในการทดสอบระบบการเทรด
- ตอนนั้น ริชาร์ด ดอนเชียน (ผู้บุกเบิกการพัฒนาระบบการเทรดตามแนวโน้ม) ยังทำทุกๆด้วยมือ แต่ ซีโคตา พัฒนาโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย
- เขาได้รับแรงบันดาลใจและอิทธิพลการเทรดจากหนังสือ Reminiscences of a stock operator (บันทึกลับเซียนหุ้น) ของ Jesse Livermore (สั่งซื้อหนังสือ คลิ๊ก)
- และ ริชาร์ด ดอนเชียน ถือเป็นหนึ่งในแสงนำทางของการเทรดด้วยเทคนิคของเขา
- ระบบแรกในการเทรด เป็นลักษณะเส้น EMA ตัดกัน
- ตอนแรกเขารู้สึกว่า การเทรดตามระบบ เหมือนทิ้งความรู้จาก MIT ไม่ได้คาดเดาตลาดเลย แค่นั่งดู แต่ในท้ายสุดเขาก็มั่นใจในการเทรดตามระบบ โดยไม่ใส่ใจต่อข่าวสารต่างๆ
- เป็นคนมีพรสวรรค์ในเรื่องเทรด
- การเทรดทั้งหมด (เป็นระบบ หรือ เทรดมือ) ล้วนแต่เกิดขึ้นมาจากระบบบางอย่าง ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
- ไม่เชื่อในปัจจัยทางพื้นฐาน
- มีความหลงใหลในการเทรดอย่างมาก ไม่ใช่แค่งาน แต่คือชีวิตของเขาเลย
- ส่วนตัวเขา เทรด = ชีวิต
ข้อคิด :
- การเทรดและจิตวิทยา คือ สิ่งเดียวกัน
- กุญแจสำคัญของการอยู่รอดในระยะยาว คือ บริการหน้าตัก
- สิ่งสำคัญในการเทรดแบบตามแนวโน้ม
- 1. แนวโน้มระยะยาว
- 2. รูปแบบของชาร์ทในปัจจุบัน
- 3. เลือกจุดที่ดีในการซื้อ/ขาย
- 4. อยู่ห่างจากความคิดทางปัจจัยพื้นฐาน
- จุดเข้าซื้อ : จุดที่โมเมนตัมของตลาดแข็งแกร่งในทิศทางของการเทรดนั้นๆ (เขาไม่หาจุดต่ำสุด หรือ สูงสุด)
- อย่างเอาอารมณ์เข้าไปเทรด (หายนะ)
- อารมณ์ มีทั้ง ความหวัง ความกลัว และ ความโลภ
- ปัจจัยการเทรดที่ดี
- 1. ตัดขาดทุน
- 2. ตัดขาดทุน
- 3. ตัดขาดทุน
- ขาดทุนติดต่อกัน : จัดการด้วยการลดจำนวนครั้งของการเทรดลง
- วางจุดตัดขาดทุนไว้ตั้งแต่ตอนเข้าเทรด
- เขามักทำกำไรออกมาก่อนในช่วงที่ตลาดขึ้นอย่างบ้าคลั่ง บางทีไม่ตามระบบ (ไม่ได้รอสัญญาณขาย) เพราะว่า วิธีนี้ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตโฟลิโอได้ ทำให้จิตใจสงบ
- ไม่เสี่ยงเกิน 5% ในแต่ละการเทรด
- ความสำเร็จในการเทรดเกิดจากความรักในตลาด
- กฏในการเทรดที่เขายึดถือ
- 1. การตัดขาดทุน
- 2. อยู่กับการเทรดที่ชนะ
- 3. วางเดิมพันให้น้อย
- 4. ทำตามกฏโดยไม่ตั้งคำถาม
- 5. รู้ว่าเมื่อไรที่จะไม่ทำตามกฏ
- กฏการเทรดต้องสะท้อนสไตล์การเทรดของแต่ละคน ไม่เช่นนั้นจะทำตามกฏได้ไม่นาน
- คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป : ควรหาเทรดเดอร์ที่เก่งกว่า เพื่อให้เขาเทรดแทน และไปทำอย่างอื่นที่รักมันจริงๆ ***!!! (แรง! 555+)
- การเทรดด้วยระบบตามแนวโน้มเป็นส่วนหนึ่งของการอ่านชาร์ท โดยการอ่านชาร์ทก็เหมือนกับการเล่นเซิร์ฟ คุณไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับฟิสิกส์ของคลื่น คุณแค่ต้องสามารถรู้สึกได้เมื่อมันเกิดขึ้นและมีแรงขับเคลื่อนที่จะทำมันในเวลาที่ถูกต้องแค่นั้นเอง
- เทรดเดอร์เป็นเพียงหนึ่งอาชีพ ถ้าไม่ชอบ หรือ ไม่เก่ง ก็ไปหาอาชีพอื่นที่ชอบกว่า เก่งกว่าทำ แค่นั้นเอง
- คุณสมบัติเทรดเดอร์ผู้ชนะ : มักจะเป็นผู้ชนะในแวดวงต่างๆ ที่พวกเขาอยู่
- บุคลิกของเทรดเดอร์ผู้ชนะ
- 1. รักในการเทรด
- 2. รักที่จะชนะ
เพิ่มเติมเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง