Source: https://financetrain.com/characteristics-financial-system

ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แบ่งเป็น (1) Pre-trade transparent เป็นข้อมูลราคาและจำนวนคำสั่งที่แจ้งให้นักลงทุนทราบก่อนที่ะทำการเทรด (2) Post-trade transparent เป็นข้อมูลราคาและขนาดของหลักทรัพย์ที่ดำเนินการเทรดเสร็จสิ้นแล้วให้นักลงทุนทราบ ซึ่งนักลงทุนต้องการให้ตลาดเปิดเผยข้อมูลมากที่สุดเพื่อประเมินมูลค่าหลักทรัพย์และต้นทุนในการเทรด อย่างไรก็ตามฝั่งผู้ขาย (Dealers) ต้องการเปิดเผยข้อมูลให้น้อยที่สุดเพื่อให้มีข้อได้เปรียบทางด้านข้อมูล การปิดบังข้อมูลส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask (Offer) สูงขึ้น

ระบบการเงินที่ดีคือระบบที่ทำให้แต่ละบุคคลสามารถบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ โดยตลาดที่สมบูรณ์แบบ (Complete markets) จะมีลักษณะดังนี้:

– นักลงทุนสามารถฝากเงินได้อัตราผลตอบเทนที่เหมาะสม

– บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีเครดิตดีสามารถขอกู้เงินได้

– ผู้ป้องกันความเสี่ยง (Hedgers) สามารถบริหารความเสี่ยงของตัวเองได้

– นักเทรดสามารถซื้อขายสกุลเงิน, สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities), และสินทรัพย์อื่นๆได้ตามต้องการ

ถ้าหากตลาดสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำ หมายความว่าตลาดมีการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ (Operational efficient) และหากราคาหลักทรัพย์ในตลาดสะท้อนข้อมูลปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดก็จะถือว่าระบบการเงินมีประสิทธิภาพด้านข้อมูล (Informationally efficient)

นอกจากนี้ระบบทางการเงินที่ดีจะต้องมีตัวกลางทางการเงิน (Financial intermediaries) ที่มีคุณสมบัติดังนี้:

– มีการบริหารจัดการระบบซื้อขาย เช่น ตลาดหลักทรัพย์

– เพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบการเงิน

– รับการค้ำประกันสินทรัพย์เพื่อการลดต้นทุนในการกู้ยืม

– มีธนาคารที่ใช้เงินฝากในการปล่อยเงินกู้

– มีบริษัทประกันภัยที่นำความเสี่ยงที่ไม่เกี่ยวข้องกันมารวมกัน (Pool unrelated risks)

– มีบริการบริหารกองทุนให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้ด้วยต้นทุนที่ถูก

– มี Clearing house จัดการคำสั่งซื้อขาย

– มีระบบฝากเงินเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน

ระบบการเงินที่ดีจะส่งผลดีต่อคนทุกๆฝ่าย ตัวอย่างเช่น คนที่ฝากเงินกับธนาคารก็ให้ประโยชน์ต่อเจ้าของกิจการที่ต้องการกู้เงินเงินเพื่อมาลงทุน ซึ่งผลประโยชน์ต่างๆเกิดขึ้นได้จากธุรกรรมระหว่างคนที่ไม่รู้จักกัน ส่งผลให้เกิดโอกาสในวงที่กว้างขึ้นกว่าการธุรกรรมเฉพาะกับบุคคลที่รู้จักกัน

นอกจากนี้ในตลาดที่มีประสิทธิภาพด้านข้อมูล เงินทุนจะถูกจัดสรรไปในทางที่เกิดประโยชน์สูงสุด เรียกว่ามีประสิทธิภาพด้านการจัดสรรเงินทุน (Allocationally efficient) ซึ่งจะเกิดจากนักลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ตามข้อมูลที่ได้รับมา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้กระทบต่อปัจจัยพื้นฐานและมูลค่าของหลักทรัพย์ และหากตลาดมีประสิทธิภาพด้านการดำเนินการ ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพด้านข้อมูล เนื่องจากมีต้นทุนในการซื้อขายที่ต่ำ ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายตามข้อมูลที่มีได้บ่อยยิ่งขึ้นนั่นเอง

ตลาดที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีมาตรการกำกับดูลเพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังนี้:

– การฉ้อโกงรูปแบบต่างๆ

– การเทรดด้วยข้อมูลภายในบริษัท

– ข้อมูลที่มีราคาแพง

– การผิดนัดชำระหนี้

– ปกป้องนักลงทุนหน้าใหม่เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของตลาด

– สร้างมาตรการเพื่อความง่ายต่อการวิเคราะห์ผลประกอบการ

– ป้องกันบุคคลภายในบริษัทควบคุมนักลงทุนภายนอก

– กำหนดมาตรฐานในการรายงานงบการเงินเพื่อลดต้นทุนในการหาข้อมูลของนักลงทุน

มาตรการข้างต้นสามารถกำหนดขึ้นได้โดยภาครัฐ หรือกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเมื่อใดที่องค์กรเหล่านี้ล้มเหลวในการกำกับดูแลปัญหาต่างๆ จะส่งผลให้ตลาดไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ, สภาพคล่องลดลง, บริษัทต่างๆหลีกเลี่ยงโครงการที่มีความเสี่ยงสูง, และเศรษฐกิจเติบโตช้า

บทความที่เกี่ยวข้อง