หลังจากที่เราเข้าใจองค์ประกอบของ Cash flow statement แต่ละส่วนกันไปแล้ว Cash flow from operating activities (CFO) ก็ยังสามารถบันทึกได้ 2 แบบ คือ Direct และ Indirect method

Direct Method

Source: https://stratafolio.com/guide-direct-cash-flow-indirect-cash-flow/

วิธีนี้เป็นวิธีที่บันทึก CFO จากตัวกระแสเงินสดที่ไหลเข้าและออกจากการดำเนินงานโดยตรง ทำให้ผู้อ่านเห็นรายการเงินสดแต่ละรายการ และทราบที่มาที่ไปอย่างละเอียด ซึ่ง Cash flow statement แบบนี้เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนมากกว่า Indirect method อย่าไรก็ตาม Direct method ไม่เป็นที่นิยมในบริษัทส่วนใหญ่ เนื่องจากมีความยุ่งยากและใช้เวลาในการเตรียมมากกว่า Indirect method

Indirect Method

Source: https://stratafolio.com/guide-direct-cash-flow-indirect-cash-flow/

เป็นวิธีที่นำ Net profit มาบวกค่าต่างๆที่ไม่ใช่เงินสด (Non-cash) กลับไป จากนั้นก็ปรับด้วยปริมาณ Operating assets and liabilities ที่เพิ่มลดจากงวดก่อนหน้า โดยที่ Net operating cash flow ที่ได้จะเท่ากับใน Direct method อธิบายเป็นขั้นตอนได้ดังนี้:

  1. เริ่มบรรทัดบนสุดด้วย Net profit
  2. ลบด้วย Operating assets ที่เพิ่มขึ้น (บวกหาก Operating assets ลดลง)

    บวกด้วย Operating liabilities ที่เพิ่มขึ้น (ลบหาก Operating liabilities ลดลง)

  1. บวกค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด เช่น ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย (ลบหากเป็นรายได้ที่ไม่ใช่เงินสด)
  2. ลบส่วนกำไรและบวกส่วนขาดทุนที่เป็นผลมาจากรายการของ investing และ financing cash flow

ส่วน Cash flow from investing activities (CFI) และ financing activities (CFF) ทั้งจาก Direct และ Indirect method จะเหมือนกัน เนื่องจากไม่ได้เกิดจากการหักลบจาก Net profit แต่เป็นการคำนวณจากองค์ประกอบต่างๆที่เราได้อธิบายไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้ ในบทความต่อไป เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับการนำ Cash flow statement ไปใช้ในการวิเคราะห์บริษัท และ Common-size cash flow statement ที่ใช้สำหรับการเปรียบเทียบคล้ายๆกับที่เคยอธิบายใน Common-size income statement และ balance sheet นั่นเอง

หลักการวิเคราะห์งบการเงิน: Cash Flow Statement