ตราสารหนี้ คืออะไร

ตราสารหนี้ (Bond/Fixed Income Securities) คือ ตราสารทางการเงินประเภทหนึ่งที่ให้ผู้ให้กู้ (รัฐบาลหรือภาคเอกชน) สามารถกู้ยืมเงินจากนักลงทุน โดยผู้ให้กู้มีสถานะเป็นลูกหนี้ ส่วนนักลงทุนมีสถานะเป็นเจ้าหนี้

ความแตกต่างระหว่างตราสารหนี้กับตราสารทุน

ตราสารหนี้ตราสารทุน
รูปแบบของผลตอบแทนดอกเบี้ยปันผล
สิทธิในการเรียกร้องได้รับเงินคืนก่อนตราสารทุนได้รับเงินคืนหลังตราสารหนี้
อายุการลงทุนมีอายุแน่นอนไม่มีกำหนด
ความเสี่ยงและผลตอบแทนต่ำกว่าสูงกว่า
สภาพคล่องต่ำกว่าสูงกว่า

ความสำคัญของตราสารหนี้ในตลาดการเงินและการลงทุน

  1. เป็นแหล่งรายได้ประจำ
  2. ความปลอดภัยของเงินทุน
  3. การกระจายความเสี่ยง
  4. สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้

องค์ประกอบพื้นฐานของตราสารหนี้

  1. มูลค่าหน้าตั๋ว: จำนวนเงินต้นที่ผู้ลงทุนจะได้รับคืนเมื่อมีการไถ่ถอนตราสารหนี้
  2. อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว: อัตราดอกเบี้ยที่ผู้ออกตราสารหนี้จ่ายกับผู้ลงทุนตลอดอายุของตราสารหนี้
  3. งวดการชำระดอกเบี้ย: จำนวนครั้งของการชำระดอกเบี้ย โดยทั่วไปจะมีหน่วยเป็นปี
  4. วันครบกำหนดไถ่ถอน: วันที่ผู้ลงทุนจะไถ่ถอนตราสารหนี้
  5. ชื่อผู้ออก: ระบุชื่อลูกหนี้
  6. ข้อสัญญา: เงื่อนไขและข้อตกลงที่กำหนดให้ลูกหนี้ปฏิบัติตามหรืองดเว้นการปฏิบัติ

ประเภทของตราสารหนี้

  1. แบ่งตามอายุของตราสารหนี้

1.1 ตราสารหนี้ระยะสั้น: ครบกำหนดไถ่ถอนไม่เกิน 1 ปีนับจากวันออกจำหน่าย

1.2 ตราสารหนี้ระยะยาว: ครบกำหนดไถ่ถอนเกินกว่า 1 ปีนับจากวันออกจำหน่าย

1.3 ตราสารหนี้ที่ไม่มีกำหนดไถ่ถอน: ไม่ระบุวันครบกำหนดไถ่ถอน

  1. แบ่งตามประเภทผู้ออก

2.1 ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล: ออกโดยกระทรวงการคลัง แบ่งออกเป็น

  • ตั๋วเงินคลัง: ตราสารหนี้ระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี
  • พันธบัตรรัฐบาล: ตราสารหนี้ระยะยาวอายุไม่น้อยกว่า 1 ปี

2.2 หุ้นกู้เทศบาล: ออกโดยหน่วยงานราชการระดับรัฐหรือระดับท้องถิ่น แบ่งออกเป็น

  • หุ้นกู้ประเภทค้ำประกันด้วยภาษี แบ่งออกเป็น
    • ภาระหนี้ทั่วไป
    • ภาระหนี้ค้ำประกันด้วยการอนุญาตให้ก่อหนี้
    • ภาระหนี้ซึ่งมีการเพิ่มระดับเครดิต
  • หุ้นกู้รายได้: ชำระดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้ออกหุ้นกู้
  • หุ้นกู้มีการซื้อประกัน: ซื้อประกันการชำระเงินกับบริษัทประกัน เพื่อประกันการชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยแก่ผู้ลงทุน
  • หุ้นกู้เตรียมชำระคืน: ค้ำประกันโดยพันธบัตรรัฐบาล โดยกระแสเงินสดที่ได้รับจากพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเพียงพอที่จะชำระคืนแก่ผู้ลงทุน
  • อนุพันธ์ทางการเงินของหุ้นกู้เทศบาล: ตราสารอนุพันธ์ที่สร้างจากหุ้นกู้เทศบาล

2.3 ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย: เครื่องมือในการดำเนินนโยบายทางการเงินผ่านตลาดเงินในการจัดกาารสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

2.4 พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ แบ่งออกเป็น

  • ค้ำประกันโดยกระทรวงการคลัง
  • ไม่ได้ค้ำประกันโดยกระทรวงการคลัง

2.5 ตราสารหนี้ภาคเอกชน: ออกโดยบริษัทเอกชนเพื่อระดมทุนจากผู้ลงทุนในวงจำกัดหรือประชาชนทั่วไปเพื่อนำเงินไปใช้ในกิจการ

  1. แบ่งตามวิธีการชำระดอกเบี้ย

3.1 ชำระดอกเบี้ยคงที่: ชำระดอกเบี้ยคงที่ตลอดอายุตราสารหนี้

3.2 ชำระดอกเบี้ยลอยตัว: ชำระดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง เช่น อัตราดอกเบี้ยฝากประจำ 6 เดือน หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง อัตราดอกเบี้ยที่ผู้ลงทุนจะได้รับจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

3.3 ไม่ชำระดอกเบี้ย: ผู้ลงทุนซื้อตราสารหนี้ประเภทนี้ในราคาส่วนลด และรับเงินคืนตามมูลค่าหน้าตั๋ว

  1. แบ่งตามสิทธิเรียกร้อง

4.1 ตราสารหนี้ด้อยสิทธิ: ผู้ลงทุนได้รับสิทธิในการรับชำระหนี้เป็นรองจากผู้ถือตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ แต่ก่อนผู้ถือตราสารทุน

4.2 ตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ: ผู้ลงทุนได้รับสิทธิในการรับชำระหนี้ก่อนผู้ถือตราสารหนี้ด้อยสิทธิ แต่ด้อยกว่าตราสารหนี้มีประกัน

  1. แบ่งตามการใช้สินทรัพย์ค้ำประกัน

5.1 ตราสารหนี้ไม่มีหลักประกัน: สิทธิรับส่วนแบ่งจากการขายสินทรัพย์ที่เหลือจากสินทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน โดยจะได้รับคืนจากสัดส่วนและตามลำดับในการเรียกร้องสิทธิเท่านั้น

5.2 ตราสารหนี้มีหลักประกัน: ผู้ถือตราสารหนี้ประเภทนี้จะมีสิทธิเหนือหลักทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน หากขายหลักประกันแล้วยังไม่เพียงพอ ผู้ถือตราสารหนี้จะถูกปรับสิทธิเป็นหนี้ไม่มีหลักประกัน

5.3 ตราสารหนี้มีการค้ำประกัน: ค้ำประกันโดยบริษัท องค์กรหรือบุคคลที่สาม โดยผู้ค้ำประกันจะจ่ายหนี้แทนผู้ออกตราสารหนี้หากไม่สามารถชำระหนี้หรือดอกเบี้ยในระยะเวลาที่กำหนด

  1. แบ่งตามชนิดของสิทธิแฝง

6.1 ตราสารหนี้ปราศจากสิทธิแฝง

6.2 ตราสารหนี้มีสิทธิแฝง เช่น

  • หุ้นกู้แปลงสภาพ: หุ้นกู้ที่ให้สิทธิในการแปลงสภาพจากหุ้นกู้เป็นหลักทรัพย์อื่น
  • หุ้นกู้ซึ่งกำหนดเงินเพื่อไถ่ถอน: ผู้ออกหุ้นกู้แบ่งเงินจำนวนหนึ่งในแต่ละปีเพื่อการไถ่ถอนหุ้นกู้
  • ตราสารหนี้ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนด
  • ตราสารหนี้ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนด
  • ตราสารหนี้จากการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน: สินทรัพย์ที่ถูกแปลงมาเป็นตราสารหนี้ เช่น ตราสารที่มีการจดจำนองรองรับ (MBS) ที่นำลูกหนี้สินเชื่อจดจำนองอสังหามารองรับในการออกตราสาร
  1. แบ่งตามวิธีการชำระเงินต้น

7.1 ชำระคืนมูลค่าหน้าตั๋วครั้งเดียว ณ วันครบกำหนดไถ่ถอน

7.2 ทยอยชำระคืนมูลค่าหน้าตั๋ว

  1. แบ่งตามลักษณะอื่น ๆ

8.1 ตราสารหนี้ชนิดชำระดอกเบี้ยโดยอ้างอิงกับตัวแปรอ้างอิง: คล้ายกับตราสารหนี้ประเภทชำระดอกเบี้ยลอยตัวแต่อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรอ้างอิงแทนที่จะเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง

8.2 หุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศ แบ่งออกเป็น

  • หุ้นกู้ต่างประเทศ: หุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศที่ออกจำหน่ายในต่างประเทศ โดยสกุลเงินของหุ้นกู้เป็นสกุลเงินของประเทศที่ไปจำหน่าย
  • บาทบอนด์: ตราสารหนี้ต่างประเทศที่ออกโดยภาครัฐหรือภาคเอกชนต่างประเทศมาจำหน่ายในไทยเป็นสกุลเงินบาท
  • หุ้นกู้ยูโร: หุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศที่ออกจำหน่ายในต่างประเทศ โดยสกุลเงินของหุ้นกู้เป็นคนละสกุลเงินของสกุลเงินของประเทศที่ไปจำหน่าย
  • FX Bond: หุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายในไทยในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ

8.3 พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ: ตราสารหนี้ภาครัฐที่ผูกกระแสเงินสดที่จะจ่ายในรูปเงิน, ดอกเบี้ยจ่ายและมูลค่าหน้าตั๋วเข้ากับอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจริงในอนาคตของประเทศ

8.4 ตราสารศุกูก: ตราสารทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ไม่อยู่ในรูปของดอกเบี้ย, ไม่เกี่ยวพันกับธุรกิจต้องห้ามและผลตอบแทนจากการลงทุนมาจากการมีส่วนร่วมในธุรกรรมและรับความเสี่ยงร่วมกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักชาริอะห์ของศาสนาอิสลาม

8.5 หุ้นกู้ที่เลื่อนการชำระดอกเบี้ย: หุ้นกู้ที่ไม่มีการชำระดอกเบี้ยในระยะที่มีการเลื่อนการชำระดอกเบี้ย และจะเกิดการชำระดอกเบี้ยที่เลื่อนออกไปพร้อมกัน

8.6 หุ้นกู้หลายประเภทที่มีการออกพร้อมกัน: หุ้นกู้ที่ผู้ออกหุ้นกู้มีการกำหนดหุ้นกู้เป็นประเภทต่าง ๆ ตามลักษณะของหุ้นกู้ เช่น กำหนดไถ่ถอนและ/หรืออัตราดอกเบี้ยที่ต่างกัน

8.7 หุ้นกู้ที่ไม่ชำระด้วยตัวเงิน: หุ้นกู้ที่ชำระดอกเบี้ยแก่ผู้ถือหุ้นกู้ด้วยตราสารอื่น เช่น หุ้นกู้

8.8 หุ้นกู้สองสกุลเงิน: หุ้นกู้ที่มีการชำระดอกเบี้ยในสกุลเงินหนึ่ง แต่จ่ายคืนในอีกสกุลเงินหนึ่ง

ภาพรวมของตลาดตราสารหนี้

บทบาทของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตราสารหนี้

กระทรวงการคลัง: ออกตราสารหนี้หลักที่มีมูลค่ามากที่สุดในตราสารหนี้โดยดำเนินการผ่านสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

ธนาคารแห่งประเทศไทย: ออกพันธบัตรเพื่อใช้ในการบริหารสภาพคล่องโดยดำเนินการผ่านตลาดเงิน

รัฐวิสาหกิจ: ออกพันธบัตรรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการต่าง ๆ หรือนำเงินทุนไปใช้จ่ายในการดำเนินงานตามโครงการต่าง ๆ ของรัฐวิสาหกิจ

บริษัทเอกชน: นิติบุคคลที่ออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุนจากผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไปเพื่อใช้ในการลงทุนหรือเพื่อใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท

ผู้ค้าตราสารหนี้: สถาบันการเงินที่ได้รับใบอนุญาตค้าหลักทรัพย์หรือจัดจำหน่ายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้

นายหน้าค้าตราสารหนี้: บริษัทที่ประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายตราสารหนี้ให้แก่บุคคลที่ต้องการจะซื้อหรือขายตราสารหนี้ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานก.ล.ต.

ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์: บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์จากสำนักงานก.ล.ต.

ที่ปรึกษาทางการเงิน: สถาบันการเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานก.ล.ต. ในการให้บริการเกี่ยวกับคำปรึกษา ความเห็นและการจัดเตรียมเอกสารข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอต่อสำนักงานก.ล.ต., ตลาดหลักทรัพย์, ผู้ถือหุ้นกู้และประชาชนทั่วไป

ผู้ลงทุน แบ่งออกเป็น

  • ผู้ลงทุนรายบุคคล: ผู้ลงทุนรายบุคคลที่ซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยตนเอง
  • ผู้ลงทุนสถาบัน: กลุ่มผู้ลงทุนหลักทั้งในตลาดหลักและตลาดรอง

หน่วยงานกำกับดูแล

  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
  • กระทรวงการคลัง
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย
  • สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

องค์กรและผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ

  • สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
  • นายทะเบียน
  • ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
  • ผู้รับฝากทรัพย์สิน

ภาพรวมของตลาดแรกของตราสารหนี้

การซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดแรกจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ออกตราสารหนี้ซึ่งต้องการระดมทุน ทำการขายตราสารหนี้ให้แก่ผู้ลงทุนในตลาดเป็นครั้งแรก

ภาพรวมของตลาดรองของตราสารหนี้

ตลาดรองของตราสารหนี้คือตลาดที่ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำการซื้อขายตราสารหนี้หลังจากได้มีการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดแรกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตลาดรองของตราสารหนี้ในไทยประกอบด้วย

  • ตลาดซื้อขายตราสารหนี้ลักษณะติดต่อกันเอง แบ่งออกเป็น
    • การซื้อขายระหว่างผู้ค้าตราสารหนี้
    • การซื้อขายระหว่างผู้ค้าตราสารหนี้กับผู้ลงทุนสถาบัน
  • ตลาดซื้อคืนตราสารหนี้: ผู้ขายหลักทรัพย์ตกลงขายหลักทรัพย์ให้กับผู้ซื้อหลักทรัพย์ โดยมีสัญญาว่าจะซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวกลับคืนตามวันเวลาและราคาตกลงกันไว้

ภาษีที่เกี่ยวข้องการลงทุนในตราสารหนี้

  • กำไรจากการขายตราสารหนี้: หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% หากมีกำไร
  • ดอกเบี้ยที่ได้รับ: หักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
  • เงินได้จากส่วนลดจากการซื้อตราสารหนี้ หรือผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาจำหน่าย: หักภาษี ณ ที่จ่าย 15%

แหล่งข้อมูลอ้างอิง