หลายคนเคยสงสัยกันมั้ยว่าจะมีสักกี่บริษัทที่มีอิทธิพลในการควบคุมทั้งทิศทางการไหลเข้า-ออกของเงิน และการลงทุนของโลกได้ ซึ่ง BlackRock เป็นหนึ่งในนั้น แล้ว BlackRock ที่ว่านี้ คือบริษัทอะไร ลองไปดูกันต่อเลย
BlackRock เริ่มก่อตั้งในปี 1988 จากกลุ่มนักธุรกิจและนักลงทุนชาวสหรัฐฯ ด้วยคนไม่ถึง 10 คน ระยะเวลาผ่านไปกว่า 35 ปี ตอนนี้มีมูลค่าสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การจัดการกว่า เกือบ 400 ล้านล้านบาท โดยในตอนนี้ถือว่าเป็นบริษัทการจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ดูแลเงินลงทุนมูลค่ามหาศาลให้กับบุคคลทั่วไป, สถาบันการเงิน, รัฐบาล และองค์กรต่างๆ ทั่วโลก
อาจเกิดคำถามขึ้นมากันต่อว่า แล้วเพียงแค่บริษัทเดียว จะไปมีอิทธิพลต่อระบบการเงินโลกได้อย่างไร ลองมาดู 4 ข้อได้เปรียบของ BlackRock กัน
1.การสินทรัพย์ที่ภายใต้การบริหารที่ใหญ่ จะเห็นได้ว่าด้วยมูลค่าสินทรัพย์ในการบริหารที่มีนั้น มากกว่ามูลค่า GDP ของประเทศส่วนใหญ่ในโลก ทำให้เวลา BlacRock จะเข้าไปลงทุนในบริษัทสักแห่ง ก็สามารถเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทชั้นนำทั่วโลก ทำให้มีสิทธิออกเสียงในการตัดสินใจสำคัญของบริษัทเหล่านั้น
2. การมีเครือข่ายที่กว้างขวาง ด้วยลักษณะการประกอบธุรกิจ ทำให้มีลูกค้าเป็นสถาบันการเงิน ,บริษัทประกัน และกองทุนบำเหน็จบำนาญ เป็นต้น แล้วยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลและธนาคารกลางหลายประเทศ ในด้านของการให้คำปรึกษาต่าง ๆ มากมาย ความสัมพันธ์เหล่านี้ทำให้ BlackRock มีอิทธิพลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ
3. การเข้าถึงข้อมูลระดับโลก โดย BlackRock เป็นเจ้าของระบบ Aladdin เป็นแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ความเสี่ยงและการลงทุน ที่ถือว่าได้รับความนิยมมากที่สุดตัวหนึ่ง จากการที่สถาบันการเงินทั่วโลกเลือกใช้ ทำให้เกิดอิทธิพลทั้งทางตรง และทางอ้อมต่อการเคลื่อนไหวของตลาดได้เช่นกัน
4. การกำหนดมาตรฐานโลก ด้วยขนาดและอิทธิพลที่ได้กล่าวไป ทำให้การตัดสินใจในการตั้งกฎเกณฑ์บางอย่าง ทำให้ทั้งโลกต้องปรับตัวตาม เช่น การกำหนดมาตราฐาน ESG เป็นต้น
โดย BlackRock ยังประสบความสำเร็จกับการทำผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมการลงทุนไปยังทั่วโลก นั่นคือ ETF ภายใต้ชื่อ iShares ซึ่งถือว่าเป็นที่นิยมไปทั่วโลก
จากการเป็นที่นิยม ทำให้ BlackRock ได้ออก ETF มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ,ดัชนี ,ตราสารหนี้ และสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น
สุดท้าย หากใครสนใจในด้านการลงทุน ก็ควรจะรู้จักยักษ์ใหญ่แห่งการบริหารสินทรัพย์อย่าง BlackRock เพราะเงินทุนมหาศาลที่บริษัทนี้จัดการมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในแง่มุมหนึ่ง
ที่สามารถลงทุนได้ผ่านสินทรัพย์หลากหลายประเภทผ่านกองทุน ETF อย่าง iShares ไม่เพียงสร้างโอกาสให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อทิศทางของตลาดการเงินและเศรษฐกิจโดยรวมด้วยนะ