Recency Bias หรือที่รู้จักกันในชื่อ อคติจากเหตุการณ์ล่าสุด เป็นแนวโน้มที่มนุษย์มักจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นล่าสุดมากเกินไป จนส่งผลต่อการตัดสินใจในหลายๆ ด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว การทำงาน หรือการลงทุน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่สำคัญในช่วงเวลาหนึ่ง เรามักจะเชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะสะท้อนหรือกำหนดอนาคตได้อย่างแม่นยำ ทั้งที่ในความจริงมันอาจไม่เป็นเช่นนั้น
ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจถึง Recency Bias ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปจริง ๆ หรือไม่ในอนาคต นอกจากนี้เรายังจะพูดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากอคตินี้ในชีวิตประจำวัน และวิธีการหลีกเลี่ยงเพื่อให้การตัดสินใจของเราแม่นยำและมีความสมดุลมากขึ้น
Recency Bias คืออะไร?
Recency Bias คืออคติทางความคิดที่เกิดขึ้นเมื่อเรามีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับเหตุการณ์หรือข้อมูลที่เกิดขึ้นล่าสุดเกินไป ในขณะที่อาจมองข้ามเหตุการณ์หรือข้อมูลในอดีตที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน แนวโน้มนี้ทำให้เรามักจะพิจารณาการตัดสินใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดอย่างไม่สมเหตุสมผล
ตัวอย่างของ Recency Bias ที่เราสามารถพบเห็นได้ในหลาย ๆ สถานการณ์ ได้แก่
- ในการลงทุน: นักลงทุนที่เพิ่งประสบกับการขาดทุนจากการลงทุนในหุ้นอาจจะตัดสินใจขายหุ้นออกไปทันที เพราะคิดว่าเหตุการณ์ล่าสุดนี้จะสะท้อนถึงอนาคตในระยะยาว แต่อันที่จริงแล้ว ราคาหุ้นอาจจะฟื้นตัวขึ้นในอนาคต
- ในชีวิตส่วนตัว: คนที่เพิ่งผิดหวังจากความรักอาจจะไม่กล้าพูดคุยหรือเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ เพราะคิดว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นจะเกิดขึ้นซ้ำอีก แต่อันที่จริงแล้ว คนใหม่ๆ ที่เข้ามาชีวิตอาจไม่ได้นิสัยเหมือนคนที่พึ่งผ่านไปก็เป็นได้
ทำไม Recency Bias ถึงเกิดขึ้น?
การเกิด Recency Bias มีสาเหตุมาจากกระบวนการทำงานของสมองมนุษย์ ซึ่งเรียกว่า การเก็บความจำระยะสั้น ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลได้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ และมักจะจำเหตุการณ์ล่าสุดได้ดีกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
สิ่งที่เราจำได้ง่ายที่สุดในความจำระยะสั้น คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ซึ่งทำให้เรามีแนวโน้มที่จะเชื่อมโยงสิ่งเหล่านั้นกับอนาคต หรือใช้มันในการตัดสินใจ แม้ว่าจะไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับภาพรวมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็ตาม
Recency Bias กับการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน
เรามักจะตกหลุมพรางของ Recency Bias ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่รู้ตัว หากเราไม่ได้มีการวิเคราะห์หรือพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ตัวอย่างเช่น
1. ความสัมพันธ์ส่วนตัว
เมื่อเรามีประสบการณ์ที่ไม่ดีจากความรักหรือความสัมพันธ์ที่ผ่านมาหลังจากเหตุการณ์นั้น เราอาจจะคิดว่าทุกความสัมพันธ์ในอนาคตจะเป็นเช่นนั้น แต่ที่จริงแล้ว คนใหม่ที่เราเจออาจจะมีความแตกต่างจากคนเก่าอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นการให้ความสำคัญกับประสบการณ์ล่าสุดมากเกินไป อาจทำให้เราไม่สามารถเปิดใจรับโอกาสใหม่ ๆ ได้
2. การตัดสินใจทางการงาน
ในที่ทำงาน เมื่อเราพิจารณาผลงานของพนักงานในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เช่น การประเมินผลงานประจำปี บางครั้งเราอาจจะให้คะแนนสูงเกินไปกับพนักงานที่เพิ่งทำผลงานดีในระยะสั้น โดยไม่คำนึงถึงผลการทำงานในระยะยาว ซึ่งจะทำให้การประเมินไม่สะท้อนความสามารถโดยรวมของพนักงาน
Recency Bias ในการลงทุน
การลงทุนก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ Recency Bias ส่งผลกระทบอย่างมาก หากนักลงทุนยึดติดกับเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น เช่น กหากมีข่าวร้ายเกี่ยวกับบริษัทที่ลงทุนไว้ พวกเขาก็มักจะตัดสินใจขายหุ้นออกไปทันทีโดยไม่พิจารณาองค์ประกอบอื่น ๆ ที่มีผลต่อการเติบโตในระยะยาว
Recency Bias ในสังคม
การที่ Recency Bias ส่งผลต่อการตัดสินใจในหลาย ๆ ด้าน ทำให้เราอาจจะต้องมองย้อนกลับไปและถามว่า มันจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปจริง ๆ หรือไม่? ในความจริงแล้ว อคติจากเหตุการณ์ล่าสุดนี้อาจจะยังคงมีอยู่ในชีวิตของเรา หากเราไม่รู้จักวิธีการจัดการกับมัน
อย่างไรก็ตาม เราสามารถปรับเปลี่ยนวิธีคิดและการตัดสินใจของเราได้โดยการตระหนักรู้ถึงอคติชนิดนี้และพยายามมองข้อมูลจากหลายแหล่ง และพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะยาว รวมถึงพิจารณาถึง มิติด้านเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่เกิดจากอารมณ์หรือเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา
วิธีหลีกเลี่ยง Recency Bias
การหลีกเลี่ยง Recency Bias จะทำให้การตัดสินใจในชีวิตของเรามีความแม่นยำและสมดุลมากขึ้น ดังนี้
- มองภาพรวม – อย่าให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดมีอิทธิพลมากเกินไป ควรพิจารณาภาพรวมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในอดีตหรือเหตุการณ์ในระยะยาว
- ตั้งคำถามกับตัวเอง – ก่อนที่จะตัดสินใจ ควรถามตัวเองว่าเหตุการณ์ล่าสุดนี้มีความสำคัญจริง ๆ หรือแค่เป็นแค่สิ่งที่เราจำได้ดีในขณะนี้
- ใช้ข้อมูลหลายมิติ – ควรมีการรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจเพียงแค่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้
- คำนึงถึงระยะเวลา – ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก การงาน หรือการลงทุน ให้มองไปที่ภาพรวมในระยะยาวและพิจารณาถึงข้อมูลในทุกมิติ
สรุป
Recency Bias อาจจะยังคงส่งผลต่อการตัดสินใจของเราไปในระยะยาว แต่เราไม่ควรยอมให้มันมาครอบงำการคิดและการตัดสินใจในชีวิตของเรา เพียงแค่เรามีความตระหนักรู้และใช้ข้อมูลอย่างมีเหตุผลมากขึ้น เราก็สามารถหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ผิดพลาดจากอคติชนิดนี้ได้ และสิ่งนี้อาจจะช่วยให้มีโอกาสในการประสบความสำเร็จมากขึ้นในอนาคต