ในแวดวงการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของ “คุณเฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ” หรือที่นักลงทุนรู้จักกันในชื่อ “คุณเชาว์” เพราะเขาคือหนึ่งในนักลงทุนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เซียนหุ้นหลักร้อยล้าน” ที่สามารถสร้างผลตอบแทนในตลาดหุ้นได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะจากการลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตสูง จนสามารถทำกำไรได้ถึง 10 เด้งจากการลงทุนในหุ้นตัวหนึ่งอย่าง KAMART (คาร์มาร์ท) ซึ่งทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในวงการนักลงทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาว (Value Investment หรือ VI) ที่เชี่ยวชาญในการเลือกหุ้นคุณค่ามาลงทุน
ชีวิตและเส้นทางก่อนเข้าสู่วงการลงทุน
คุณเชาว์เกิดในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย บางครั้งถึงขั้นยากจนในจังหวัดระยอง เขาเป็นลูกคนที่ 9 จาก 10 คนในครอบครัว เริ่มต้นชีวิตด้วยความลำบากในบ้านไม้ 2 ในต่างจังหวัด ซึ่งชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก เขาเล่าว่าเคยเห็นพ่อแม่ทำงานหนักมากตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เขาต้องตั้งใจเรียน และรู้จักคุณค่าของเงินมากขึ้น
แต่หลังจากที่พ่อของเขามีโอกาสขายที่ดินสวนยางพาราช่วงที่นิคมอุตสาหกรรมมาพัฒนาในพื้นที่ ทำให้ครอบครัวเขาหลุดพ้นจากความยากจน และมีเงินส่งเขาไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาในระดับ MBA หลังจากจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี 2538 ชีวิตของเขาก็เริ่มต้นการผจญภัยในต่างแดน
การทำงานในต่างประเทศและการเดินทางเข้าสู่วงการวาณิชธนกิจ
หลังจากจบ MBA ที่สหรัฐอเมริกาในปี 2542 ชีวิตของคุณเชาว์ต้องเผชิญกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ “ต้มยำกุ้ง” ในประเทศไทย ซึ่งทำให้ตลาดแรงงานตกต่ำจนเขาต้องหางานทำในสหรัฐอเมริกา และได้ทำงานในตำแหน่งบัญชีที่ทำให้เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ในอเมริกาได้เป็นเวลา 7 ปี ก่อนจะตัดสินใจกลับเมืองไทยตอนอายุ 30 ปี เขาเริ่มต้นทำงานในวงการวาณิชธนกิจ (Investment Banking) โดยทำงานในบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ และทำงานในตำแหน่งนี้เป็นระยะเวลาประมาณ 6-7 ปี
จุดเปลี่ยนมาสู่การลงทุนและเริ่มต้นสายงาน VI
แม้จะทำงานในวงการวาณิชธนกิจ แต่คุณเชาว์เริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เส้นทางที่เขาอยากจะเดินไปตลอดชีวิต เขาจึงตัดสินใจลาออกจากงานในปี 2555 และหันมาทำธุรกิจส่วนตัว โดยเริ่มต้นด้วยการขายเครื่องสำอางในรูปแบบแฟรนไชส์ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เริ่มหันมาสนใจการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างจริงจัง
เขาเล่าว่า เริ่มต้นลงทุนในตลาดหุ้นด้วยการสะสมความรู้จากการอ่านหนังสือการลงทุน ซึ่งเริ่มจากการอ่านหนังสือ “ตีแตก” ของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เผยแพร่แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่าหรือ VI ในประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนแนวนี้ที่ได้ผลตอบแทนดีเกินคาด ในระยะแรกเขาเริ่มลงทุนด้วยเงิน 6 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บสะสมจากการทำงานที่อเมริกาในการซื้อหุ้น CPALL (ซีพี ออลล์) หุ้นแรกในชีวิตของเขา แต่ช่วงแรกเขากลับประสบปัญหา เนื่องจากราคาหุ้นไม่ขึ้นตามที่คาดไว้
การเลือกลงทุนหุ้น VI และการเติบโตของพอร์ต
หลังจากการลงทุนในหุ้น CPALL ซึ่งผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาด คุณเชาว์เริ่มกลับมาทบทวนวิธีการลงทุน และหันมาใช้หลักการลงทุนแบบ VI ที่เขาได้ศึกษา โดยเน้นการเลือกหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง (Undervalued Stocks) และเน้นลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการเติบโตดี พร้อมกับมีการจ่ายปันผลที่ดีในระยะยาว
หลังจากนั้น เขาเริ่มถือหุ้นในบริษัทต่างๆ อย่าง BOL , HTECH , KAMART, และ MOONG ซึ่งหุ้นเหล่านี้ล้วนแต่ให้ผลตอบแทนที่ดีตามหลักการลงทุนแบบ VI เขายอมรับว่าเขาชอบหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง และมีอนาคตที่สดใส
“KAMART” กำไร 10 เด้ง!
หนึ่งในความสำเร็จที่เด่นชัดที่สุดในพอร์ตการลงทุนของคุณเชาว์คือการลงทุนในหุ้น KAMART (คาร์มาร์ท) ซึ่งเขาได้กำไรจากหุ้นตัวนี้ถึง 10 เด้ง เขาเล่าว่า จุดเริ่มต้นการลงทุนใน KAMART มาจากความสนใจในธุรกิจเครื่องสำอาง เมื่อเขาไปทานข้าวที่แถวอโศกและเห็นผู้หญิงหลายคนมุ่งดูเครื่องสำอาง เขาจึงถามรุ่นน้องว่าเป็นสินค้าประเภทไหน และพบว่ามันเกี่ยวข้องกับแบรนด์ KAMART ซึ่งตอนนั้นธุรกิจของบริษัทกำลังเริ่มขยายไปยังการขายสินค้าเครื่องสำอาง และเขาคิดในใจว่า “ถ้าเราได้ถือหุ้นบริษัทนี้ต้องรวยแน่ๆ”
คุณเชาว์ตัดสินใจลงทุนใน KAMART โดยซื้อลงทุนเมื่อราคาหุ้นอยู่ที่ 0.40 บาท และถือครองหุ้นจนราคาหุ้นปรับขึ้นมาเป็น 10 เท่าในช่วง 2 ปีต่อมา ถือเป็นการลงทุนที่ทำกำไรอย่างมหาศาล
ผลตอบแทนและพอร์ตลงทุนปัจจุบัน
ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของคุณเชาว์มีมูลค่ารวมหลักร้อยล้านบาท โดยปัจจุบันเขามีหุ้นในพอร์ตทั้งหมด 4 ตัวได้แก่
- BOL (บิซิเนส ออนไลน์)
- จำนวนหุ้น: 7,229,600 หุ้น
- เงินปันผลล่าสุด (ปี 2567): 0.145 บาท/หุ้น
- KAMART (คาร์มาร์ท)
- จำนวนหุ้น: 25,980,710 หุ้น
- เงินปันผลล่าสุด (ปี 2567): 0.10 บาท/หุ้น
- MGI (มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชชั่นแนล)
- จำนวนหุ้น: 2,450,000 หุ้น
- เงินปันผลล่าสุด (ปี 2567): 0.15 บาท/หุ้น
- SEI (เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด)
- จำนวนหุ้น: 800,000 หุ้น
คุณเชาว์ยังกล่าวถึงอนาคตของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่าโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนสูงในระยะยาวเริ่มลดลง เนื่องจากหุ้นดีๆ ราคาถูกในตลาดเริ่มหายาก
คำแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่
คุณเชาว์ยังให้คำแนะนำแก่ผู้ที่สนใจเริ่มลงทุนในหุ้นว่า การลงทุนในหุ้นควรจะ “โฟกัส” กับหุ้นที่มีคุณภาพ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนในหลายตัวมากเกินไป เพียงแค่ 3-5 ตัวในพอร์ตก็เพียงพอแล้ว การเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดีและเติบโตได้ในระยะยาวคือกุญแจสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่ดี
สรุป
ชีวิตของ คุณเชาว์ – เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ จากการเป็นวิศวกรในสหรัฐอเมริกาจนถึงการเป็นนักลงทุนหลักร้อยล้านในปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงเส้นทางที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้ ความพยายาม และการเลือกลงทุนที่มีวิจารณญาณ แม้เริ่มต้นจากความยากจน แต่ด้วยการศึกษาหาความรู้และการตัดสินใจลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ ก็สามารถก้าวข้ามอุปสรรคและสร้างความสำเร็จในตลาดหุ้นได้