“ก็ใคร ๆ เขาก็ทำกัน” เป็นประโยคข้ออ้างสั้นๆ ที่เรามักจะได้ยินอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เราไม่แน่ใจหรือไม่มั่นใจในการตัดสินใจ การคิดและทำตามคนส่วนใหญ่กลายเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ โดยที่เราไม่ทันได้คิดถึงเหตุผลหรือผลกระทบที่อาจตามมา ความคิดเช่นนี้แสดงถึงปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Herd Mentality หรือ “การคิดแบบหมู่คณะ” ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เรามักเลือกทำตามคนส่วนใหญ่โดยไม่พิจารณาอย่างรอบคอบว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นเหมาะสมกับเราแค่ไหน

ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับแนวคิดการคิดแบบหมู่คณะ (Herd Mentality) และเหตุผลที่มันเกิดขึ้น รวมถึงวิธีที่จะช่วยให้เราไม่ตกเป็นเหยื่อของการทำตามคนหมู่มากโดยไม่ตั้งใจ

Herd Mentality คืออะไร?

การคิดแบบหมู่คณะหมายถึงแนวโน้มที่มนุษย์เลือกที่จะทำตามพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ โดยไม่ต้องพิจารณาหรือคิดอย่างมีเหตุผล คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้มักจะทำสิ่งต่างๆ เพราะคนอื่นทำ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสิ่งของ การเลือกที่นั่งในร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการเลือกร้านอาหารที่คนต่อแถวเยอะๆ เพราะคิดว่า “คนเยอะๆ คงอร่อย” หรือการเลือกซื้อสินค้าตามกระแสที่คนส่วนใหญ่สนใจ แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้รู้ว่าทำไมจึงทำตาม

แม้ว่าในบางกรณีการทำตามคนหมู่มากอาจไม่ได้ส่งผลเสียทันที แต่มักจะมีผลเสียในระยะยาว ซึ่งมักจะเกิดจากการตัดสินใจโดยปราศจากการพิจารณาอย่างรอบคอบ

เหตุผลที่ทำให้เกิด Herd Mentality

การคิดแบบหมู่คณะเกิดจากหลายปัจจัยทางจิตวิทยา ซึ่งสามารถอธิบายได้จาก 3 เหตุผลหลัก ดังนี้

1) การอยากเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีความต้องการการยอมรับจากกลุ่ม ดังนั้นการทำตามคนส่วนใหญ่จึงเป็นวิธีที่ง่ายในการหลีกเลี่ยงการโดดเดี่ยวหรือถูกมองว่าเป็นคนแปลกแยก การทำสิ่งที่เป็นที่นิยมช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในกลุ่ม

2) ความเชื่อว่า “คนส่วนใหญ่ไม่น่าจะผิด”

เมื่อเราเห็นคนส่วนใหญ่ทำอะไรบางอย่าง เรามักจะเชื่อว่าเรื่องนั้นคงถูกต้อง เพราะ “คนส่วนใหญ่” คงไม่ทำสิ่งที่ผิด หรือไม่ฉลาด ในบางครั้งแม้ว่าเรามีความคิดขัดแย้งอยู่ลึก ๆ แต่เราก็เลือกที่จะทำตามเพราะความเชื่อว่าคนหมู่มากคงรู้ดีที่สุด

3) ความเสี่ยงต่ำ

การทำตามคนอื่นมักจะให้ความรู้สึกว่ามีความเสี่ยงน้อยลง หากทำตามคนอื่นแล้วสำเร็จก็ไม่ได้แตกต่างอะไร แต่ถ้าล้มเหลวก็จะไม่ได้รับความเสียหายมากมาย เพราะทุกคนทำเหมือนกันหมด

ผลกระทบของการคิดแบบหมู่คณะ

แม้ว่าการทำตามคนหมู่มากจะทำให้รู้สึกปลอดภัยในระยะสั้น แต่ในระยะยาวมันอาจส่งผลเสียต่อการตัดสินใจและพัฒนาในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในด้านการลงทุน, การตัดสินใจในชีวิต, หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจในอาชีพการงาน การทำตามกระแสโดยไม่คิดให้ดีก่อนอาจทำให้เกิดการลงทุนในสิ่งที่ไม่คุ้มค่า การเลือกงานที่ไม่ตรงกับความสามารถ หรือการทำกิจกรรมที่ไม่ได้มีความหมายต่อตัวเอง

ตัวอย่างของ Herd Mentality ในด้านการเงิน การลงทุน หรือหุ้น

  1. การลงทุนในหุ้นที่ได้รับความนิยมสูง (Stock Bubble)

เมื่อหุ้นของบริษัทบางแห่งเริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมากและราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่จะมีการซื้อหุ้นตามกันเพราะกลัวว่าจะพลาดโอกาส (Fear of Missing Out หรือ FOMO) ซึ่งในบางครั้งการตัดสินใจเหล่านี้ไม่ได้อิงตามพื้นฐานหรือข้อมูลทางการเงินของบริษัท แต่เป็นการตามกระแสของคนส่วนใหญ่

ตัวอย่าง: การเกิด “บับเบิ้ล” ของหุ้น Dotcom ในช่วงปี 1999-2000 หรือการเกิดฟองสบู่ในตลาดคริปโตเคอเรนซีเมื่อหลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนจำนวนมากซื้อตามกันเพราะกลัวว่าจะพลาดกำไร แต่สุดท้ายตลาดก็เกิดการปรับฐานอย่างรุนแรงเมื่อราคาหุ้นหรือคริปโตเคอเรนซีลดลงอย่างรวดเร็ว

  1. การลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นกระแส (Trendy Investments)

ในช่วงที่ตลาดมีการพูดถึงสินทรัพย์บางตัว เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือหุ้นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยม นักลงทุนบางคนอาจตัดสินใจลงทุนโดยไม่พิจารณาฐานข้อมูลหรือวิเคราะห์ลึกซึ้ง แต่ไปตามกระแสที่กำลังได้รับความสนใจจากกลุ่มใหญ่

ตัวอย่าง: เช่น การลงทุนใน Bitcoin ในช่วงที่ราคาพุ่งสูงขึ้นในปี 2017 หรือการลงทุนในหุ้น Tesla หรือ GameStop ในช่วงที่มีข่าวลือหรือกระแสในโลกออนไลน์

  1. การขายสินทรัพย์ตามกันเมื่อเกิดความกลัว (Panic Selling)

Herd mentality ยังสามารถเกิดขึ้นในทางกลับกันได้ เช่น เมื่อราคาหุ้นหรือสินทรัพย์ตกต่ำอย่างรวดเร็ว นักลงทุนจำนวนมากอาจตัดสินใจขายตามกันโดยไม่มีการวิเคราะห์ข้อมูล หรืออาจขายเพราะกลัวการขาดทุนต่อไป การตัดสินใจในลักษณะนี้สามารถทำให้ราคาตลาดลดลงหนักขึ้น

ตัวอย่าง: ในช่วงวิกฤตการเงินโลก 2008 นักลงทุนจำนวนมากขายหุ้นทิ้งในเวลาที่ตลาดหุ้นตกอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าจะขาดทุนมากขึ้น

  1. การกระจายข่าวลือในสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Influence)

ในยุคดิจิทัล การกระจายข่าวลือผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Twitter, Reddit หรือ Facebook อาจกระตุ้นให้เกิด herd mentality ได้ง่ายขึ้น เช่น การกระตุ้นให้ผู้คนซื้อหรือขายหุ้นตามกระแสที่แชร์ในโลกออนไลน์

ตัวอย่าง: กรณีของ GameStop ในปี 2021 ที่สมาชิกจาก Reddit (ในกลุ่ม r/WallStreetBets) ร่วมมือกันซื้อหุ้นของ GameStop จนทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างไม่คาดคิด แม้ว่าผลประกอบการของบริษัทจะไม่ได้สะท้อนถึงราคาหุ้นที่สูงขนาดนั้น

วิธีการหลีกเลี่ยงการทำตามคนหมู่มาก

การหลีกเลี่ยงการคิดแบบหมู่คณะนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็สามารถทำได้หากเรามีการฝึกฝนทักษะในการตัดสินใจด้วยตนเอง

1) หยุดและคิด

ก่อนที่เราจะตัดสินใจทำสิ่งใด ควรหยุดและถามตัวเองว่าเหตุผลที่ทำไปนั้นคืออะไร ทำไปเพื่ออะไร และผลลัพธ์ที่ต้องการคืออะไร

2) ใช้เวลาในการค้นคว้า

อย่าตัดสินใจตามกระแสหรือการแนะนำของคนหมู่มากโดยไม่ศึกษาข้อมูล การศึกษาค้นคว้าก่อนการตัดสินใจสามารถช่วยให้เราเห็นมุมมองที่ชัดเจนและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล

3) กล้าที่จะแตกต่าง

หากเราอยากจะประสบความสำเร็จในแบบที่ไม่เหมือนคนทั่วไป เราต้องพร้อมที่จะทำสิ่งที่แตกต่าง ไม่กลัวที่จะเป็น “แกะดำ” ที่มีแนวทางแตกต่างจากคนหมู่มาก

บทสรุป

การคิดแบบหมู่คณะเป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ทั้งในการลงทุน การตัดสินใจเรื่องงาน หรือแม้กระทั่งการเลือกใช้ชีวิตตามกระแสสังคม หากเราไม่ระวังและไม่คิดอย่างรอบคอบ อาจทำให้เราสูญเสียความเป็นปัจเจกและเลือกทำสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง

เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของการคิดแบบหมู่คณะ ควรฝึกฝนการคิดวิเคราะห์และพิจารณาเหตุผลในการตัดสินใจให้ดีขึ้น พร้อมกับกล้าที่จะแตกต่างและมองหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเหมาะสมกับตัวเองที่สุด