Earning Yield Gap คือ

Earning Yield Gap คือ ส่วนต่างระหว่าง อัตราผลตอบแทนของตลาดหุ้น (Earning Yield) กับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond Yield : ส่วนมากจะใช้พันธบัตรอายุ 10 ปี ในการดู)

โดยพันธบัตรรัฐบาลในทางทฤษฎีถือเป็น Risk free rate หรือ การลงทุนในผลตอบแทนที่ปราศจากความเสี่ยง

ซึ่ง Earning Yield Gap เป็นหนึ่งในวิธีดูความถูก แพงของตลาดหุ้น 

ตัวอย่างในกรณีตลาดหุ้นถูก

  • Earnings Yield ของตลาดหุ้น อยู่ที่ 7% 
  • อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล อยู่ที่ 1%
  • แปลว่า ตลาดหุ้นถูก น่าลงทุน

คนก็จะให้ความสนใจกับตลาดหุ้นมากกว่า (ถูก) เพราะได้ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ค่อนข้างเยอะ 

ตัวอย่างในกรณีตลาดหุ้นแพง

  • Earning Yield ของตลาดหุ้น อยู่ที่ 4%
  • อัตราผลตอบแทนของพันธบัตร อยู่ที่ 3%
  • แปลว่า ตลาดหุ้นแพง ไม่น่าลงทุน

ในกรณีนี้ส่วนต่างในการลงทุนในตลาดหุ้นกับพันธบัตรรัฐบาลแค่เพียง 1% ทำให้นักลงทุนไม่อยากลงทุนในตลาดหุ้น เพราะมีความเสี่ยงมากกว่า ซึ่งต่างจากพันธบัตรรัฐบาล ที่แทบไม่มีความเสี่ยงเลย ทำให้ตลาดหุ้นในช่วงดังกล่าวไม่น่าลงทุน (แพง)

วิธีการคำนวณ Earning Yield Gap

Earning Yield Gap = Earning Yield ของตลาดหุ้น –  Government bond yields

Earning Yield ของตลาดหุ้น

เราจะใช้ P/E Ratio ในการคำนวณ โดย Earning Yield จะเป็นส่วนกลับของ P/E

เพราะ P/E Ratio = Price / Earning 

อย่างถ้าตลาดหุ้น P/E อยู่ที่ 12 เท่า 

Earning Yield ก็จะเท่ากับ 1/12 = 8.33%

ยิ่ง P/E สูง Earning Yield ยิ่งต่ำ แต่หาก P/E ต่ำ Earning Yield จะสูง

Government bond yields 

อันนี้ก็ตรงๆ คือ นำอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี

วิเคราะห์

  • ในช่วงที่ EYG สูงๆ ตลาดหุ้นถูก
  • ในช่วง EYG ต่ำๆ ตลาดหุ้นแพง

ถ้าไปดูในกราฟ Monthly ของระหว่าง EYG กับ SET Index

  • ที่จังหวะที่ชัดเจน คือ ตอนที่ EYG อยู่แถวโซน 5% +/-  เป็นช่วงที่ SET Index ถูก มักจะเป็นจุดต่ำสุด
  • และตอนที่ EYG อยู่แถวโซน 1.5% +/- เป็นช่วงที่ SET Index แพง มักจะเป็นจุดสูงสุดของรอบ

แต่ถ้าหากพิจารณาดูแล้ว EYG จะวิ่งส่วนทางกับ SET Index ในภาพรายวัน หรือ รายสัปดาห์ เราจะเห็นรอบการแกว่งตัวเช่นเดียวกัน บางคนสามารถนำใช้จับจังหวะในการเทรดได้เช่นเดียวกัน แต่อาจต้องปรับระดับความถูกแพง เช่น อาจจะเป็นช่วง 3-4% เป็นต้น 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง