เหล่านักเทคนิคส่วนมากที่ยกให้ Richard Donchian เป็นเจ้าพ่อการเทรดแบบ Trend following เค้าได้แนะนำถึงกว่า 20 คำแนะนำในการเทรด โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ “คำแนะนำทั่วไปในการลงทุน” และ “คำแนะนำสำหรับเทคนิคคอล”
11 คำแนะนำทั่วไปในการลงทุน
(1) ให้ระมัดระวัง การซื้อ ในช่วงที่คนทั่วไป Bullish กับตลาดมากๆ และให้ระมัดระวัง การขาย ในช่วงที่คนทั่วไป Bearish มากๆ เช่นเดียวกัน เพราะคนส่วนมากมักจะผิด (แม้ถึงคนทั่วไปจะถูก การเคลื่อนไหวของราคาก็จะ Delay ต่อนิดหน่อยเท่านั้น ก่อนที่จะวิ่งไปในทางตรงกันข้ามในที่สุด)
(2) เมื่อช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ให้จับตาดูปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพื่อยืนยันถึงรอบการเคลื่อนไหวใหม่อีกครั้ง … โดยให้พิจารณาตามทิศทางของแนวโน้มเดิม ถ้าช่วงที่แนวโน้มขาขึ้น ราคามาพร้อมกับ Vol. ที่หนาแน่น เป็นสัญญาณ Bullish ขณะที่ช่วงแนวโน้มขาลง ราคาลงพร้อมกับ Vol. ที่หนาแน่น เป็นสัญญาณ Bearish
(3) Let profits run and cut losses short … ปล่อยกำไรให้รันไปเรื่อยๆ ส่วน Stop loss สั้นๆ
(4) ให้เทรด Size เล็กๆ ในช่วงตลาดไร้ทิศทาง โดยเราจะลดการโดน whipsaws (สัญญาณหลอก) ด้วยการพัฒนาเทรด Set up ให้แข็งแกร่งขึ้น
(5) อย่าไปไล่ราคา ในช่วงที่ราคาขึ้นมาติดต่อกัน 3 วันติด ให้รอวันที่ราคาย่อตัว ค่อยเข้า เพื่อ Risk-Rewar ที่ดีขึ้น
(6) ใช้ Stop loss เพื่อ limit loss และเพื่อ Lock กำไร โดยการวาง Stop loss ควรมีพื้นฐานบนรูปแบบการเทรดของเรา
(7) ในช่วง Uptrend เวลาเล่นควรเปิด Position ฝั่ง Long มากกว่า Short เนื่องจาก Upswing ในช่วง Uptrend จะมีขนาดใหญ่กว่าช่วง Downswing (ส่วน Downtrend ก็ตรงกันข้าม)
(8) ใช้ Limit order ในการเข้าไม้แรก และ ใช้ Market orders ในการปิดสถานะ
(9) ซื้อหุ้นที่เป็นขาขึ้นและมี Relative strength ที่แข็งแกร่ง , ขายหุ้นที่เป็นขาลงและมี Relative strength ที่อ่อนแอ
(10) เวลาดูการเคลื่อนไหวโดยรวมยังภาพใหญ่ ให้พิจารณาจากหุ้นกลุ่ม Transportation ถ้าหุ้นกลุ่มนี้ขึ้นนำตลาด มีโอกาสที่ตลาดจะไปต่อ แต่ถ้าหุ้นกลุ่มนี้ไม่ขึ้นตามตลาด หรือ lag กว่าตลาด อันนี้ต้องระวัง
(11) security’s capitalization ของหุ้นในแต่ละตัวค่อนข้างสำคัญ (capitalization ในความหมายของ Donchian ยังไม่ชัดเจน ว่าจริงๆแล้วจะสื่อถึงอะไร)
9 คำแนะนำสำหรับเทคนิคคอล
(1) ถ้าหากทิศทางก่อนหน้าเป็นการขึ้น แล้วเกิดลักษณะแกว่งตัว Sideway หรือพักตัวออกด้านข้าง จะมีโอกาสสูงที่จะได้เห็นการขึ้นต่อของราคา ตามสัดส่วนที่ขึ้นมาของรอบก่อนหน้า (ในช่วงขาลงก็ตรงกันข้าม)
(2) long sideways consolidation หรือ การแกว่งตัวออกด้านข้างที่ยาวนาน เมื่อราคาทดสอบกรอบบน และย่อตัวลงมา เป็นสัญญาณในการอ่อนตัวกลับสู่กรอบด้านล่างเดิม (เมื่อราคาทดสอบกรอบล่าง ก็ตรงกันข้าม)
(3) หาจังหวะ ซื้อ เมื่อราคาอ่อนตัวลงมาแตะเส้น Uptrend line หรือเป็นช่วงที่ Volume หดตัว และในทางตรงกันข้าม ขาย เมื่อราคาขึ้นไปแตะเส้น Downtrend line หรือช่วงที่ Volume หดตัวเช่นเดียวกัน … ให้ระวังช่วงที่ราคาแกว่งตัวบนเส้น Trend line แล้วไม่ไปไหนสักที หรือช่วงที่ราคาแตะเส้น Trend line บ่อยๆ
(4) เตรียมลากเส้น Trend line ใหม่ เมื่อราคา Break เส้น Trend line เดิม (การชนเส้น Trend line เดิมบ่อยๆ เป็นการเพิ่มโอกาสการ Break เส้น Trend line นั้นมากขึ้น)
(5) Major trendline แสดงถึงแนวโน้มหลัก ส่วน Minor trendline แสดงถึงแนวโน้มย่อย
โดยสัญญาณการเกิดขึ้นเมื่อ ราคาทะลุเส้น Minor “down” trend line ขึ้นมาได้ ในขณะที่ภาพใหญ่ราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้น Uptrend line (สัญญาณขายตรงกันข้าม)
(6) รูปแบบสามเหลี่ยม มักจะถูก Break ในฝั่งที่เป็น Flat (แนวนอน) นี่หมายความว่า Ascending triangle (สามเหลี่ยมยกฐานสูงขึ้น) ราคามักจะ Break ขึ้น ส่วน Descending triangle (สามเหลี่ยมยอดต่ำลง) มักจะ Break ลง
(7) สังเกตปริมาณ Vol. ถ้าเกิดลักษณะ Volume climax มักจะเป็นสัญญาณการจบของแนวโน้มนั้น (เตรียมที่จะเปลี่ยนแนวโน้ม)
(8) Gap ไม่จำเป็นต้องปิดทุกครั้ง , Breakway gaps เป็นสัญญาณการเริ่มต้นแนวโน้มใหม่ ซึ่งจะไม่ถูกปิด , Continuation gap บ่งชี้ว่าราคาจะปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางตาม ซึ่งไม่ถูกปิดเช่นเดียวกัน ส่วน Exhaustion gap จะเป็นสัญญาณการจบแนวโน้ม Gap นี้จะถูกปิด เทรดเดอร์ไม่ควรคาดการณ์ว่า Gap ที่เปิดจะถูกปิด แต่ต้องพิจารณาให้ออกว่า Gap ที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะใดมากกว่า (ซึ่งอันนี้พูดง่ายแต่ทำจริงยาก)
(9) ในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้น จะเริ่มต้นเข้าซื้อ หรือ เพิ่ม Position ต้องเข้าหลังจากที่ราคาย่อตัวลง 1 วัน (ไม่สนว่าจะลงมากลงน้อยเท่าไหร่) เฉพาะช่วงที่ย่อแบบ Vol. น้อยๆ … ส่วนในช่วงปรับตัวลงก็เช่นเดียวกัน จะเริ่ม Short เริ่ม เพิ่ม Position ในการ Short หลังจากที่ราคาเด้งมา 1 วัน (ไม่สนว่าเด้งมากเด้งน้อยเท่าไหร่) และช่วงนั้นก็ควรเด้งแบบ Vol. น้อยๆ … เพื่อสร้าง Risk/Reward ratio ที่ดีขึ้น
Richard Donchian