ในทางอาหาร กระเพาะปลามักจะถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารจีน โดยเฉพาะในเมนูที่เรียกว่า กระเพาะปลาน้ำแดง หรือ กระเพาะปลาผัดแห้ง ซึ่งนิยมในจีนและในประเทศที่มีชุมชนชาวจีน กระเพาะปลาเหล่านี้มักจะผ่านกระบวนการแปรรูปเพื่อทำให้แห้ง และเมื่อใช้ในการทำอาหารจะมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ มีความหนึบหนับและเนื้อแน่น ทำให้เป็นที่นิยมในอาหารหรูหราและมีมูลค่าสูง

กระเพาะปลา คืออะไร?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับกระเพาะปลาอย่างถ่องแท้ก่อน กระเพาะปลาในที่นี้จริงๆ แล้วหมายถึง ถุงลมของปลา (ในภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า “หื่อเผีย” หรือ “หูป๋า”) ซึ่งทำหน้าที่ในการควบคุมการลอยตัวของปลาในน้ำ ช่วยให้ปลาสามารถว่ายน้ำได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานมาก กระเพาะปลานี้ทำหน้าที่เป็นอวัยวะที่ช่วยให้ปลาอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการในน้ำ เช่น การลอยตัวหรือจมลงตามความต้องการ

กระเพาะปลาเริ่มได้รับความนิยมในการใช้ทำอาหารเมื่อหลายพันปีก่อน โดยเฉพาะในราชสำนักจีนในยุคต่างๆ กระเพาะปลามักถูกใช้ในอาหารที่มีความหรูหราและเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่ถวายแก่จักรพรรดิหรือใช้ในพิธีกรรมสำคัญต่างๆ เช่น วันตรุษจีน งานแต่งงาน หรือวันเกิด การที่กระเพาะปลาถูกยกย่องเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกายและเพิ่มพลังวังชา ทำให้มันกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูง ในประเพณีจีน กระเพาะปลาได้รับการยกย่องว่าเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพและมีคุณสมบัติทางยามากมาย เช่น ช่วยบำรุงเลือด ตับ ไต และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ กระเพาะปลายังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายและเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม หลายคนเชื่อว่ากระเพาะปลาเหมาะสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือหลังคลอดเพราะช่วยเสริมสร้างพลังและฟื้นฟูร่างกาย

ปลาสายพันธุ์กิมจี้: กระเพาะปลาน้ำลึกที่มีมูลค่าหลายล้าน

หนึ่งในวัตถุดิบที่มีมูลค่าสูงในวงการอาหารจีนคือกระเพาะปลา ซึ่งในบางกรณีกระเพาะปลาไม่ได้มาจากปลาแค่ชนิดเดียว แต่มีการเลือกใช้ปลาเฉพาะที่มีคุณสมบัติพิเศษและหายาก เช่น ปลาสายพันธุ์กิมจี้ (Gimji) ซึ่งเป็นปลาน้ำลึกชนิดหนึ่งที่มีชื่อเสียงในเรื่องของกระเพาะปลาที่มีรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการที่สูง จึงทำให้กระเพาะปลาจากปลากิมจี้มีราคาสูงมาก มูลค่าของมันสามารถสูงถึงหลักล้านบาทต่อกิโลกรัม

ลักษณะของปลากิมจี้และแหล่งที่มา

ปลากิมจี้ (Gimji) เป็นปลาน้ำลึกที่อาศัยอยู่ในทะเลลึกของทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก ปลาชนิดนี้มีลักษณะเด่นที่การอาศัยในน้ำลึก ทำให้กระเพาะปลาและส่วนต่างๆ ของมันมีคุณภาพสูงและมีรสชาติที่เข้มข้น ปลากิมจี้มักจับได้ยากในช่วงที่น้ำทะเลมีความลึกและมีความเย็น ทำให้จำนวนปลากิมจี้ในธรรมชาติมีจำกัด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กระเพาะปลาของมันมีมูลค่าสูงตามไปด้วย

กระเพาะปลากิมจี้นั้นมีความหนาแน่นและมีเนื้อสัมผัสที่ไม่เหมือนปลาชนิดอื่น ซึ่งช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับเมนูที่มีการใช้กระเพาะปลาเป็นส่วนประกอบสำคัญ เนื้อกระเพาะปลามีความหนึบหนับและรสชาติที่ล้ำลึก จึงเป็นที่นิยมในหมู่คนที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารหรูหราและมีคุณค่าทางโภชนาการ

ทำไมกระเพาะปลากิมจี้ถึงมีมูลค่าสูง ???

  1. ความหายาก
    ปลากิมจี้เป็นปลาน้ำลึกที่จับได้ยาก ทำให้กระเพาะปลาของมันมีจำกัดในตลาด กระเพาะปลาชนิดนี้ต้องการการดูแลพิเศษทั้งในกระบวนการจับและการเก็บรักษาเพื่อให้มีคุณภาพดี เมื่อเทียบกับปลาชนิดอื่นๆ ปลากิมจี้มีจำนวนที่น้อยกว่ามาก ทำให้ราคาของมันสูงขึ้นตามไปด้วย
  2. รสชาติและคุณภาพของกระเพาะปลา
    กระเพาะปลากิมจี้มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากกระเพาะปลาของปลาชนิดอื่น ๆ ซึ่งกระเพาะปลาของมันจะมีเนื้อสัมผัสที่แน่นและเหนียวนุ่ม ออกมาจากการที่ปลากิมจี้อาศัยอยู่ในน้ำลึกที่มีความเย็นและความกดดันสูง ซึ่งช่วยให้กระเพาะปลาได้รับคุณสมบัติที่พิเศษ เนื้อกระเพาะปลาจะไม่แตกหักหรือยุบตัวง่าย และยังมีรสชาติที่หวานธรรมชาติที่ถูกยกย่องว่าเป็นรสชาติพิเศษ กระเพาะปลากิมจี้ถูกนำมาทำเมนูที่เป็นอาหารหรูหราหรือพิเศษ เช่น กระเพาะปลาน้ำแดง หรือแม้กระทั่งซุปกระเพาะปลาในร้านอาหารระดับพรีเมียม การใช้กระเพาะปลาจากปลากิมจี้ในเมนูเหล่านี้จึงทำให้ราคาของอาหารเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังเป็นเมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มพลังวังชา และเสริมสร้างสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารเพื่อสุขภาพ

จะเห็นได้ว่าการนำกระเพาะปลามาทำอาหารนั้นไม่ได้เพียงแต่เป็นการสร้างสรรค์เมนูที่มีรสชาติอร่อย แต่ยังเป็นการสืบทอดประเพณีและความเชื่อในเรื่องการบำรุงสุขภาพ กระเพาะปลาจึงเป็นอาหารที่มีความพิเศษทั้งในด้านรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งการนำกระเพาะปลามาปรุงอาหารไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าทางอาหาร แต่ยังทำให้มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของการบำรุงร่างกายและเป็นอาหารที่ใช้ในโอกาสพิเศษต่างๆ ที่สำคัญในวัฒนธรรมการกินของชาวจีน