หลายคนอาจไม่เคยรู้จัก “ตระกูลจาวลา” มาก่อน แต่ถ้าพูดถึงโรงแรม B2 คงอาจจะเคยเห็นผ่านตากันทุกแทบคน เพราะ เราจะเห็นได้เกือบทุกจังหวัดในประเทศไทย ที่เรามักจะเห็นโรงแรมราคาประหยัดที่โลโก้ภาษาอังกฤษ สีส้มๆ ที่เขียนว่า “B2” ตัวใหญ่ๆ ติดอยู่ที่ตัวอาคารบ้าง ป้ายบ้าง หรือไม่ว่าจะเป็นกำแพง ซึ่งคำว่า B2 ได้ย่อมาจากคำว่า “Boutique & Budget” ตั้งอยู่หลายแห่งในหนึ่งจังหวัด โดยราคาส่วนใหญ่ก็จะเริ่มต้นที่ราคามาตรฐานคือ 500-600 บาทต่อคืน

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นตั้งแต่ 16 ปีก่อน พี่น้องตระกูลจาวลา นักธุรกิจเชื้อสายอินเดีย 3 คน ได้แก่ “คุณพิชัย, คุณวสันต์ และ ดร.นิรันดร์ จาวลา” เดิมทำธุรกิจขายผ้าเมตรที่ตลาดวโรรส และเป็นนักลงทุนรายเล็กๆ ในอลังหาริมทรัพย์ ใน จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดความคิดร่วมกันก่อตั้งธุรกิจโรงแรมขึ้นมา ในวันที่รู้สึกว่าอยากจะลงทุนในธุรกิจที่ยังมีช่องว่างอยู่และยังไม่มีใครทำ

หากเราพูดถึงการก่อตั้งธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยสมัยนั้น หลายคนก็อาจจะบอกว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเราก็คือ ชาวต่างชาติ ที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่สำหรับตระกูลจาวลาได้มองต่างออกไป เค้ากลับมองเห็น “ช่องว่าง” ในธุรกิจโรงแรมที่ยังไม่มีใครได้ริเริ่มทำ ก็คือโรงแรมที่ราคาประหยัดนั้น มีน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลยในจังหวัดเชียงใหม่ จึงเริ่มศึกษาและลองเปิดโรงแรมแห่งแรกของ B2 ขึ้นมาในเชียงใหม่ โดยเน้นที่เป็นโรงแรมระดับมาตรฐาน 3 ดาว ที่ราคาไม่แพง สามารถเข้าถึงทุกคนได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักท่องเที่ยวเท่านั้น

คุณพิชัย จาวลา หนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงแรม B2 เคยให้สัมภาษณ์ถึงจุดเริ่มต้นของโรงแรมว่า “ห้องพักที่มีราคาสูง ราคาหลักหลายพัน ถึง 5,000 บาท ที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวมาก มีกลุ่มลูกค้าค่อนข้างมีจำนวนน้อยและมีเฉพาะช่วงเทศกาล แต่เมื่อเทียบกับกลุ่มลูกค้าที่สามารถจ่ายราคาห้องคืนละ 500 บาท ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าเยอะ และมีจำนวนตลอดทั้งปี ยังไม่มีใครสร้างโรงแรมที่รองรับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้”

“โรงแรม B2 ถือว่าเป็นโรงแรมที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะรู้กลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่ชัดเจน โดยจุดเริ่มต้นแรกของ B2 มุ่งไปที่กลุ่มลูกค้าที่เป็น ‘เซลล์แมน’ หาห้องพักแค่ต้องการนอนค้างคืน หรือจะเป็นกลุ่มที่เดินทางมาต่างจังหวัดเพื่อเยี่ยมญาติ เป็นต้น”

ไม่ว่าเราจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนเชื่อว่า “โรงแรม B2” จะเป็นหนึ่งในห้องพักที่ขึ้นแนะนำเสมอ สำหรับคีย์เวิร์ด “ห้องพักราคาประหยัด” เพราะนี่คือจุดประสงค์ของผู้ก่อตั้งเครือโรงแรม B2 ที่สร้างห้องพักให้กับ “พนักงานขาย, นักเดินทาง,
กลุ่มคนที่ต้องค้างคืนชั่วคราว, ขาจร” ที่ต้องการห้องพักราคาประหยัดในราคาคืนละ 500-600 บาท ไม่จำเป็นต้องนอนห้องพักหรูหรา อ่างอาบน้ำหรูหรา สระว่ายน้ำ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการควบคุมต้นทุน ที่ทำให้ที่พักสามารถมีราคาที่ถูก

ทั้งนี้ คุณพิชัย ได้พูดว่าเมื่อเวลาผ่านไปชื่อเสียงของ B2 สะสมมากขึ้น กลุ่มลูกค้าก็ไม่ใช่แค่เซลล์แมนหรือคนที่เดินทางมาเยี่ยมญาติเท่านั้น แต่ขยายไปที่กลุ่มเศรษฐีด้วย โดยเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อแต่ค่อนข้างใส่ใจเรื่องการใช้จ่าย ในขณะเดียวกัน โรงแรม B2 ก็มีตัวเลือกมากขึ้น ไม่ใช่แค่ห้องพักสแตนดาร์ดที่ราคา 500 บาท แต่มีราคาไปจนถึง 1,000 บาท ให้รู้สึกถึงความพรีเมียม มีสิ่งอำนวยความสะดวก และขนาดห้องพักที่กว้างขวางขึ้น  ทำบรรยากาศในการเข้าพักไม่ต่างจากโรงแรมระดับ 3 – 4 ดาว ในราคาที่จับต้องได้ ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าต่อการมาพักที่ B2

ในปัจจุบันคนที่นั่งเป็น CEO ของเครือโรงแรม B2 ก็คือ ‘ดร.นิรันดร์ จาวลา’  อีกทั้งยังเคยได้รับรางวัล “บุคคลคุณภาพแห่งปี 2018” (Quality Persons of the Year 2018) อีกด้วย ความโดดเด่นในการบริหารของ ดร.นิรันดร์ ก็คือ การยกระดับมาตรฐานของโรงแรม และการใช้เทคโนโลยี

นอกจากนี้ ดร.นิรันดร์ ระบุว่า ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ตั้งแต่ปี 2009 หลังจากนั้น เขาก็พยายามทำให้ธุรกิจเชนโรงแรม B2 เป็นกลุ่มโรงแรมที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศไทย และพยายามปรับเปลี่ยน ยกระดับมาตรฐานของโรงแรม B2 มากขึ้น แม้ว่าจะเป็นโรงแรมราคาประหยัดก็ตาม และเขายังเป็นผู้ที่ทำให้โรงแรม B2 ได้รับรางวัล Gold Circle Awards จาก Agoda ในปี 2014 อีกทั้งยังได้รับรางวัลอันดับหนึ่งจากหน่วยงานของ สปป.ลาว ในปี 2015 ยกย่องให้เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดที่มอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ลูกค้าและการบริการที่เอาใจใส่ ในราคาที่เป็นธรรมแก่ผู้ที่มาพัก และยังมีรางวัลอื่น ๆ อีกมากที่เชนโรงแรม B2 ได้รับ ภายใต้การบริหารของ CEO คนปัจจุบัน

อีกปัจจัยที่ทำให้ B2 เติบโตได้อย่างรวดเร็ว คือการจัดงานให้เหมาะสมของแต่ละคน โดยคุณพิชัย และคุณวสันต์ ที่เป็นทั้งผู้ถือหุ้น และมีตำแหน่งเป็น Business Development มีหน้าที่ในการดูแล สรรหา พัฒนาอาคารโรงแรมให้ทันสมัยอยู่เสมอ

ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ดร.นิรันดร์ พยายามแก้เกมการขาดทุนด้วยการเข้าไปเทคโอเวอร์ร้านกาแฟชื่อดังจากเชียงใหม่ ที่ชื่อว่า ‘WAKE UP COFFEE’ โดยเขามองว่าการที่นำแบรนด์ร้านกาแฟเข้ามาอยู่ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม B2 จะเพิ่มความครบครันให้กับผู้มาพักได้ ซึ่งภายในร้าน WAKE UP COFFEE ก็จะมีทั้งเครื่องดื่มและเมนูอาหาร โดยยังยึดคอนเซปต์เดิมของร้านกาแฟที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การอยู่รอดของธุรกิจโรงแรม B2 ในช่วงที่เกิดการระบาด เกือบทุกอุตสาหกรรมเผชิญภาวะที่ยากลำบาก แต่ ดร.นิรันดร์ ก็มองว่าวิกฤติโรคระบาดนี้ เป็นผลกระทบระยะสั้น 1-2 ปี และถือเป็นบทเรียนต่อผู้ประกอบการทุกราย ที่ต้องให้ความสำคัญต่อเงินหมุนเวียนในบริษัท (Cash flow)

ดร.นิรันดร์ มีพื้นฐานจบการศึกษาปริญญาตรี และปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และปริญญาเอกด้านบริการธุรกิจ จากสหรัฐอเมริกา เป็นส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมให้เขาสามารถบริหารเชนโรงแรม B2 ได้ดี โดยมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เรื่องการลดต้นทุนหลายอย่าง มุมมองการทำธุรกิจของครอบครัวจาวลา มีความน่าสนใจ สามารถผลักดันจากธุรกิจเล็ก ๆ ในจังหวัดหนึ่งให้ประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้